ข่าวสาร
GC สร้างโมเดลต้นแบบแรกของประเทศ โครงการ "ส่งพลาสติกกลับบ้าน"
จากวิกฤตโควิด-19 และการ Lockdown ได้ส่งผลต่อพฤติกรรมของประชาชนที่จำเป็นต้องอยู่บ้านกันมากขึ้น ทำให้ปัญหาขยะพลาสติกจากกล่องอาหารเดลิเวอรี่เพิ่มจำนวนมากขึ้นถึง 15% ต่อวัน (จาก 5,500 ตัน/วัน เป็น 6,300 ตัน/วัน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เล็งเห็นถึงความสำคัญ และเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย ได้หาแนวทางแก้ไขปัญหา
โดยได้หารือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) และคู่ค้าของ GC เพื่อสร้างโมเดลต้นแบบ โครงการ “ส่งพลาสติกกลับบ้าน” เรียกคืนขยะที่มีประสิทธิภาพ โดยนำร่องให้เกิด Circular Hotspot บนถนนสุขุมวิท เป็นแห่งแรกของประเทศไทยสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนใหม่ ควบคู่กับการสร้างประโยชน์เชิงสาธารณะ และเป็นต้นแบบให้กับอาเซียนในระยะฟื้นฟูหลังภาวะวิกฤตโควิด-19
ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC (จีซี) กล่าวว่า “ในฐานะที่GC เป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลก และเป็นองค์กรเกียรติยศด้านความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ GC เห็นปัญหาของขยะพลาสติกจากการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ว่าเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไขในช่วงภาวะวิกฤตโควิด-19 นี้ GC จึงริเริ่มโครงการ “ส่งพลาสติกกลับบ้าน” เพื่อเป็นโมเดลต้นแบบนำร่องของประเทศ สร้างประโยชน์ในเชิงสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน และระบบเศรษฐกิจของประเทศ
โดยการนำขยะรีไซเคิลมาสร้างประโยชน์ใหม่ตามหลักการบริหารจัดการของ GC นั่นคือ GC จะร่วมสร้างกลไกให้เกิดการคัดแยกที่ถูกต้อง โดยการร่วมสร้างจุดบริการรับฝากขยะ (Droppoint) กับพันธมิตรซึ่งการจัดการขยะนั้น จะต้องเริ่มต้นที่ตัวเราทุกคน ด้วยการคัดแยกขยะพลาสติกและทำความสะอาดก่อนทิ้งอย่างถูกต้องจากนั้นขยะพลาสติกที่สามารถนำมารีไซเคิลได้จะถูกนำมาเข้าโรงงานรีไซเคิล เพื่อผ่านกระบวนการเปลี่ยนเป็นเส้นใยพลาสติกและเม็ดพลาสติกชนิดต่างๆ จากนั้น ผ่านโรงงานแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์รีไซเคิลและ อัพไซเคิลวนกลับสู่ผู้บริโภคอีกครั้งหนึ่ง ขยะที่ถูกคัดแยกอย่างถูกต้อง เหมาะสม ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ยกระดับสร้างสุขอนามัย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับอาชีพคนรับจ้างเก็บขยะ และยังเป็นการสร้างธุรกิจรีไซเคิลคุณภาพสูงให้เกิดมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
“พลาสติกถือเป็นนวัตกรรมที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของทุกคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงภาวะวิกฤตโควิด-19 นี้ พลาสติกมีบทบาทในหลายแง่มุม ด้วยความสะดวกสบาย และยังเป็นวัสดุที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเชื้อโรค โดยเมื่อใช้เสร็จแล้วต้องมีการบริหารจัดการหลังการใช้ให้ถูกวิธี เพื่อให้ไม่เป็นภาระของโลก ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่ายจากทุกองค์กรที่เข้าร่วมโครงการ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เราเชื่อว่าโครงการ “ส่งพลาสติกกลับบ้าน”นี้จะประสบความสำเร็จในการเป็นต้นแบบ GC พร้อมสนับสนุน โดยเป็น Total Solution Provider เดินเคียงข้างภาครัฐ และภาคีพันธมิตรเพื่อขยายผลต่อยอดในเชิงพื้นที่ และขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์แบบในอนาคตต่อไป” ดร. คงกระพัน กล่าว
ที่มา: moneyandbanking.co.th
ข่าวสาร