ความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บริษัทฯ มุ่งมั่นในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) โดยตั้งเป้าหมายเพื่อบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 ผ่านเส้นทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization Pathway) ของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อเนื่องในทุกหน่วยงาน และบูรณาการผลการประเมินความเสี่ยงในการจัดทำแผนกลยุทธ์เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ สามารถลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปี 2567 บริษัทฯ ปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงาน IFRS S2: Climate-related Disclosures โดยการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางกายภาพและความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่านในทุกนิติบุคคลที่รวมอยู่ในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 นอกจากนี้ เพื่อขยายการกำกับดูแลความเสี่ยงทางกายภาพให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในห่วงโซ่อุปทานต้นน้ำ (คู่ค้า) และปลายน้ำ (ลูกค้า) เพื่อระบุผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและกำหนดแผนการบรรเทาผลกระทบ
บริษัทฯ ระบุความเสี่ยงทางกายภาพที่สำคัญ 4 ความเสี่ยง ได้แก่ คลื่นความร้อนรุนแรง (Extreme Heat) น้ำท่วมจากแม่น้ำ (Riverine Flooding) ภัยแล้ง (Drought) และความเครียดน้ำ (Water Stress) รวมถึง ราคาคาร์บอน เป็นความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่าน และ ผลิตภัณฑ์ยั่งยืน (ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ เช่น โพลิเมอร์ เคมีภัณฑ์ CCU และโซลูชันแบบหมุนเวียน เช่น การออกแบบ การรีไซเคิล และผลิตภัณฑ์ชีวภาพ เช่น โรงกลั่นชีวภาพ โพลิเมอร์ชีวภาพ และผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้) เป็นโอกาสจากการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งความเสี่ยงและโอกาสทั้งหมดข้างต้นอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้ม การดำเนินงาน และห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ บริษัทฯ ทำการจัดอันดับปัจจัยเสี่ยงและโอกาสเหล่านี้โดยใช้เกณฑ์ของระบบการบริหารความเสี่ยงองค์กร (Enterprise Risk Management: ERM) และกำหนดให้ ภัยแล้ง ความเครียดน้ำ ราคาคาร์บอน และผลิตภัณฑ์ยั่งยืน เป็นความเสี่ยงที่สำคัญลำดับต้นๆ
เพื่อแสดงให้เห็นถึงการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทฯ ได้ทำการวิเคราะห์สถานการณ์ (Scenario Analysis) ครอบคลุมระยะสั้น (ถึงปี 2573) ระยะกลาง (พ.ศ. 2574–2583) และระยะยาว (พ.ศ. 2584–2593) โดยใช้เส้นทางสังคมเศรษฐกิจร่วม (Shared Socioeconomic Pathways: SSPs) ของ IPCC สำหรับความเสี่ยงทางกายภาพ ได้แก่ SSP1-2.6 (การปล่อยต่ำ) SSP2-4.5 (ตามแนวโน้มเดิม) และ SSP5-8.5 (การปล่อยสูง) และใช้ฉากทัศน์จากรายงาน World Energy Outlook ของ IEA สำหรับความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนผ่าน ได้แก่ ฉากทัศน์นโยบายพลังงานที่ประกาศแล้ว (Stated Energy Policies Scenario: STEPS) และฉากทัศน์การปล่อยสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (Net Zero Emissions by 2050 Scenario: NZE2050) การวิเคราะห์เหล่านี้ได้ให้ข้อมูลสำหรับการวางกลยุทธ์การบรรเทาและการปรับตัวที่ครอบคลุม ร้อยละ 100 ของการดำเนินงาน ภายใต้ข้อมูลเชิงลึกนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 3 แนวทาง ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Efficiency-driven) การปรับโครงสร้างธุรกิจระยะยาว (Portfolio-driven) และขับเคลื่อนด้วยการกักเก็บและชดเชยคาร์บอน (Compensation-driven) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงและโอกาสที่ระบุไว้ และรักษาเส้นทางสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593
เพื่อเสริมสร้างการกำกับดูแล บริษัทฯ ได้นำกรอบการบริหารความเสี่ยงองค์กร COSO ERM 2017 มาปรับใช้ โดยระบุความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศเข้าสู่กระบวนการ ERM ความเสี่ยงและโอกาสที่ระบุได้จะถูกส่งต่อไปยังผู้บริหารและทีมปฏิบัติการพร้อมตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPI) ที่ชัดเจน และมีการทบทวนผลลัพธ์เป็นประจำทุกปีเพื่อประเมินประสิทธิผล ความคืบหน้าจะถูกรายงานต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กรและคณะกรรมการบริหารทุกเดือน และต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงทุกไตรมาส เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการติดตามอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ของบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้สรุปความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศที่สำคัญของบริษัทฯ ในปี 2567 และมาตรการบรรเทาที่ดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อประเด็นดังกล่าว ดังนี้
ความเสี่ยงและโอกาสด้านสภาพภูมิอากาศ | ผลกระทบทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น | กลยุทธ์การบรรเทาและการปรับตัว |
---|---|---|
ความเสี่ยงด้านกายภาพ | ||
คลื่นความร้อนรุนแรง |
ระยะสั้น: ภาวะเครียดจากความร้อน (Heat Stess) ของพนักงาน → การขาดงาน ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น; พลังงาน/ค่าใช้จ่ายในการทำความเย็นสูงขึ้น; ความเบี่ยงเบนของกระบวนการผลิตในระดับเล็กน้อย ระยะกลาง: ความเสียหายต่ออุปกรณ์/การสึกหรอที่เกิดเร็วขึ้น; ความผันผวนและความเสี่ยงไฟไหม้/ระเบิด สูงขึ้น ระยะยาว: ความท้าทายพื้นฐานด้านการออกแบบ/ที่ตั้ง; ความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานและการประกันภัย; ความเป็นไปได้ในการย้ายพื้นที่ปฏิบัติงานที่สำคัญ |
ระยะสั้น: ปรับเวลาการทำงานเป็นกะ; จัดให้มีพื้นที่พัก/ทำความเย็น; ซ้อมแผนฉุกเฉิน; สร้างความตระหนักรู้และตรวจสุขภาพ ระยะกลาง: อัปเกรดระบบทำความเย็น; ปรับปรุงอาคาร; ควบคุมและอัตโนมัติขั้นสูง; เทคโนโลยีสวมใส่เพื่อติดตามสุขภาพ ระยะยาว: วิจัยและพัฒนากระบวนการทนความร้อน (ระบบความเย็นจัด/วิธีทางเลือก); การเลือกวัสดุ; การวางแผนสถานที่; การวางแผนกำลังคน |
น้ำท่วมจากแม่น้ำ |
ระยะสั้น: การหยุดชะงักของการดำเนินงาน (ไฟฟ้า การเข้าถึง การขนส่ง); ความเสียหายอุปกรณ์เล็กน้อย; ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทันที ระยะกลาง: ความเสียหายโครงสร้างพื้นฐานรุนแรง; มลพิษต่อสิ่งแวดล้อม; ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ระยะยาว: พื้นที่ปฏิบัติงานของบริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติงานได้; การย้ายหรือออกแบบใหม่; การสูญเสียทรัพยากรมนุษย์; ความวุ่นวายทางสังคม |
ระยะสั้น: จัดทำการตอบสนองฉุกเฉิน (แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ) และการป้องกันและควบคุมการรั่วไหล ระยะกลาง: สร้างสิ่งกีดขวางน้ำท่วมถาวร; จัดการสินค้าคงคลังสารเคมี; ฝึกอบรมและสร้างความตระหนักเรื่องน้ำท่วม ระยะยาว: ยกระดับพื้นที่; ย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงสูง; วางแผนใช้ที่ดินโดยอิงข้อมูลความเสี่ยง |
ภัยแล้ง |
ระยะสั้น: การจำกัดการใช้น้ำ; ค่าใช้จ่ายน้ำและทำความเย็นสูงขึ้น; ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง; การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ระยะกลาง: การลด/หยุดการผลิต; ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น; คุณภาพน้ำเสื่อมลง ระยะยาว: ปัญหาความเหมาะสมของสถานที่; การเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์; การลงทุนจำนวนมาก (ระบบบำบัดน้ำขั้นสูง/การกลั่นน้ำเค็ม) |
ระยะสั้น: ตรวจสอบการใช้น้ำ; ตรวจจับและซ่อมแซมการรั่วไหล; ติดตามน้ำใต้ดิน; เพิ่มประสิทธิภาพน้ำที่ไม่ใช้ในกระบวนการ; สร้างความตระหนักรู้แก่พนักงาน ระยะกลาง: ประเมินความเสี่ยงด้านน้ำ; ระบบวงปิด; นำน้ำกลับมาใช้ใหม่/รีไซเคิล; เก็บกักน้ำฝน; รนำน้ำเทากลับมาใช้; ความร่วมมือกับชุมชน ระยะยาว: การปล่อยน้ำทิ้งเป็นศูนย์ (Zero Liquid Discharge: ZLD); การกลั่นน้ำเค็ม (สำหรับกระบวนการที่สำคัญหรือมีมูลค่าสูง) |
ความเครียดน้ำ |
ระยะสั้น: การลดการผลิตจากน้ำที่มีจำกัดหรือคุณภาพต่ำ; ความเสี่ยงด้านใบอนุญาตทางสังคม; ค่าใช้น้ำที่สูงขึ้น ระยะกลาง: ข้อจำกัดในการขยายหรือลงทุน; ค่าใช้จ่ายลงทุนสูงขึ้น (การบำบัด/รีไซเคิล/แหล่งน้ำทางเลือก); ความเสี่ยงด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ระยะยาว: ความเป็นไปได้ในการปิดกิจการหรือย้ายสถานที่; การแข่งขันลดลงเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีความทนทานด้านน้ำ |
ระยะสั้น: ตรวจสอบการใช้น้ำ; เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ; บำบัดน้ำที่ดีขึ้น; ทบทวนการปฏิบัติตามข้อกำหนด ระยะกลาง: จัดทำการใช้น้ำในระบบปิดและการรีไซเคิลน้ำ; ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีประหยัดน้ำ; จัดหาแหล่งน้ำทางเลือก (น้ำฝน/น้ำประปา); สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น ระยะยาว: การปล่อยน้ำทิ้งเป็นศูนย์ (ZLD); การกลั่นน้ำเค็ม; จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพน้ำในระดับชุมชน |
ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนผ่าน | ||
ราคาคาร์บอน |
ระยะสั้น: ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น; กำไรลดลง; ความเสี่ยงต่อการแข่งขันการส่งออก (เช่น CBAM) ระยะกลาง: การปรับโครงสร้างต้นทุน; ความเสี่ยงการด้อยค่าทรัพย์สิน (สินทรัพย์คาร์บอนสูง); การลงทุนขนาดใหญ่ในงานลดคาร์บอน; ความโปร่งใสในห่วงโซ่คุณค่า (Scope 3) ระยะยาว: ภัยคุกคามต่อรูปแบบธุรกิจหากเป้าหมายไม่สำเร็จ; ความเสี่ยงในการเข้าถึงทุนและใบอนุญาตดำเนินงาน |
ระยะสั้น: เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างเข้มข้น; ตั้งราคาคาร์บอนภายในองค์กร; ใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน/ข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะกลาง: ติดตั้ง CCUS/CCU; ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ยั่งยืน; ออกแบบเพื่อความเป็นวงจรและลดคาร์บอนที่ฝังในวัสดุ ระยะยาว: ใช้ไฮโดรเจนสีเขียวเป็นวัตถุดิบ/เชื้อเพลิง; สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในห่วงโซ่คุณค่า; บรรลุการดำเนินงานปลอดคาร์บอนสุทธิ (Scope 1–3) |
โอกาสด้านการเปลี่ยนผ่าน | ||
ผลิตภัณฑ์ยั่งยืน
|
ระยะสั้น: ต้นทุน R&D/การลงทุนสูงขึ้น; โอกาสด้านตลาดเกิดใหม่/ชื่อเสียง; แรงกดดันจากกฎระเบียบ/การตั้งราคาคาร์บอน ระยะกลาง: การเติบโตของตลาด; การเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจดั้งเดิม; การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทาน/ความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน ระยะยาว: ความเป็นผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ยั่งยืนและการดำเนินงาน Net Zero; ตลาดและห่วงโซ่คุณค่าใหม่ (เช่น การใช้ประโยชน์จาก CO2); โมเดลธุรกิจแบบหมุนเวียน |
ระยะสั้น: วิจัยและพัฒนาเชิงกลยุทธ์/โครงการนำร่อง; พัฒนาห่วงโซ่คุณค่าแบบร่วมมือ; การประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (LCA)/ฉลากสิ่งแวดล้อม; พอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ยั่งยืน ระยะกลาง: ขยายการผลิตเคมีภัณฑ์ยั่งยืนในระดับอุตสาหกรรม; บูรณาการการดักจับ/ใช้ประโยชน์คาร์บอนและโมเดลธุรกิจหมุนเวียน ระยะยาว: ออกแบบเพื่อความหมุนเวียนไม่สิ้นสุด; จัดทำนวัตกรรมและการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนและคาร์บอนต่ำอย่างสมบูรณ์ |