ประเด็นความยั่งยืน
การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
ระดับผลกระทบ
Impact Materiality : ต่ำ
Financial Materiality : สูง
Double Materiality : สูง
ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
ลูกค้า
คู่ค้าและ
หุ้นส่วนธุรกิจ
ผู้ถือหุ้น
นักลงทุน

เป้าหมาย (Targets)

  • คู่ค้าทุกรายรับทราบและปฏิบัติตามจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต จัดหาสินค้าวัตถุดิบ และการบริการของบริษัทฯ
  • จัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • สนับสนุนให้มีการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ การจ้างงานและสร้างรายได้ในระดับท้องถิ่น
  • จัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเป็นธรรมตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ (Challenges and Opportunities)

การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดความเสี่ยงในการหยุดชะงักของธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจรวมถึงภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ความโปร่งใส ตลอดจนสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างบริษัทฯ และคู่ค้าดังนั้น บริษัทฯ จึงกำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ส่งเสริมการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ คู่ค้า และลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกคู่ค้าที่มีศักยภาพ การประเมินความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของคู่ค้า ตลอดจนกำกับดูแลและส่งเสริมคู่ค้าให้ดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และมีการกำกับดูแลที่ดี และสอดคล้องกับจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต จัดหาสินค้าวัตถุดิบ และการบริการ รวมทั้งร่วมพัฒนาศักยภาพของคู่ค้า ให้มีความพร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของโลกอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินงานร่วมกัน และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย

แนวทางการบริหารจัดการ (Management Approach) GRI 3-3 (2021)

บริษัทฯ มุ่งมั่นบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพและสามารถสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพและขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพและตรงต่อเวลาให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวหรือการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมนอกเหนือจากหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างทั่วไปเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าตลอดจนเป็นการสร้างคุณค่าร่วมให้แก่ผู้บริโภคและสังคมในฐานะผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์

เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตลอดห่วงโซ่อุปทาน บริษัทฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นผู้กำหนดนโยบาย กำกับดูแลตรวจสอบการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อกำหนด หลักเกณฑ์ และมาตรฐาน ที่เกี่ยวข้อง สร้างความเข้าใจ และความร่วมมือในการพัฒนากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการขยายการลงทุนตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ

จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต /จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ (Supplier Code of Conduct)

บริษัทฯ ได้กำหนดจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต /จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ เพื่อให้คู่ค้า และผู้ผลิต มีแนวทางปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการทบทวนและปรับปรุง จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต /จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ อย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมประเด็นสิทธิมนุษยชนและแรงงาน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม และจริยธรรมและการปฏิบัติตามกฎหมาย

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีการบริหารคู่ค้าผ่านระบบที่ทันสมัยและเชื่อมต่อกับคู่ค้าได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการตรวจสอบศักยภาพและติดตามประเมินผลการทำงานของคู่ค้าให้สอดคล้องกับจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต /จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ ซึ่งครอบคลุมประเด็นด้าน ESG อีกทั้งบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าในการวางแผนจัดหาวัตถุดิบทดแทนกรณีฉุกเฉินเพื่อความต่อเนื่องของธุรกิจ โดยจัดให้มีการประชุมรายเดือนกับคู่ค้าหลัก ซึ่งวาระการประชุมครอบคลุมถึงแผนการรับส่งวัตถุดิบทั้งระยะสั้นและระยะยาว การวางแผนซ่อมบำรุงโรงงาน ผลการดำเนินงาน และการแก้ไขในกรณีที่พบปัญหา

จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต/จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ (Supplier Code of Conduct)

Supplier Code of Conduct

ร้อยละ

ของคู่ค้ารับทราบและปฏิบัติตามจรรยาบรรณ

การคัดเลือกคู่ค้า (Supplier Screening)

คู่ค้าของบริษัทฯ ประกอบด้วย คู่ค้าที่จัดหาวัตถุดิบ (Feedstock) ให้บริษัทฯ ได้แก่ วัตถุดิบก๊าซคอนเดนเสท และน้ำมันดิบ เป็นต้น ซึ่งมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นคู่ค้ารายสำคัญ และคู่ค้าประเภทที่ให้บริการอื่นๆ (Non-Feedstock) ได้แก่ ผู้รับเหมา ผู้จำหน่ายเครื่องจักร ตัวแทนจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ บริษัทจัดการของเสีย บริษัทขนส่งสินค้า เป็นต้น

บริษัทฯ มีกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าโดยพิจารณาคัดกรองจากความเสี่ยงที่ครอบคลุมในมิติต่างๆ อาทิ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและวัตถุดิบ ทั้งในด้านยุทธศาสตร์ การจัดหา ความผันผวนของราคา และการแข่งขันทางธุรกิจ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาล การเมือง และกฎหมายที่สอดคล้องกับการดำเนินงานในพื้นที่นั้นๆ รวมถึงความเสี่ยงตามกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การใช้ทรัพยากร การปล่อยมลพิษ และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนในการนำประเด็นหรือการปฎิบัติงานด้าน ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าในกลุ่มเป้าหมาย เช่น การพิจารณานำแนวทางการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาทิ การตั้งเป้าหมาย และแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น โดยมีเป้าหมายในการเริ่มประยุกต์ใช้กับกลุ่มงานด้านการจัดการขยะ

นอกจากการพิจารณาความเสี่ยงข้างต้นแล้ว คู่ค้าของบริษัทฯ ยังต้องผ่านการประเมินความสามารถของคู่ค้าเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นคู่ค้าใหม่ (Approved Vender List: AVL) ของบริษัทฯ โดยใช้แบบสอบถามคู่ค้า (Vender Questionnaire) และแบบประเมินคุณสมบัติของคู่ค้า (Vendor Qualification Form) ซึ่งมีเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงทั้ง 4 ด้าน ได้แก่

1) ความสามารถทางเทคนิค (Technical): เป็นการประเมินความสามารถของคู่ค้าในการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางเทคนิคและข้อกำหนดของโครงการของบริษัทฯ
2) ความสามารถในการประกันคุณภาพและการควบคุมคุณภาพ (QA/QC): การประเมินความสามารถของคู่ค้าในการรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
3) ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (SHE): การประเมินความสามารถของคู่ค้าต่อความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และหลักปฏิบัติด้านจริยธรรม
4) ข้อมูลทางการค้า (Commercial): เป็นการประเมินราคา เงื่อนไขการชำระเงิน และศักยภาพทางการค้าโดยรวมของคู่ค้า

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ที่แข็งแกร่ง รวมถึงการประเมินด้านจริยธรรม การดำเนินการตามกฎหมาย และผลกระทบต่อสังคมโดยรวมของคู่ค้าอีกด้วย โดยมีเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานด้าน ESG คิดเป็นร้อยละ 25 ซึ่งสะท้อนเห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ

การจัดลำดับความสำคัญและบริหารความเสี่ยงของคู่ค้า (Supplier Category Management)

บริษัทฯ มีการบริหารจัดการความเสี่ยงและจัดลำดับความสำคัญของคู่ค้าโดยใช้แบบจำลองการวางตำแหน่งในการเลือกคู่ค้า (Supply Positioning Model: SPM) มาใช้ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างค่าใช้จ่าย (Spend Analysis) และการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) ทั้งความเสี่ยงต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ และความเสี่ยงด้าน ESG เพื่อใช้ในการจัดทำแผนการบริหารความสัมพันธ์กับคู่ค้าในแต่ละประเภท รวมถึงการติดตาม และตรวจประเมินผลการดำเนินงาน และกำหนดแผนพัฒนาศักยภาพให้แก่คู่ค้าต่อไปทั้งนี้จากการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายและประเมินความเสี่ยงของคู่ค้า บริษัทฯ สามารถจัดลำดับความสำคัญของคู่ค้าออกเป็น 3 ระดับประกอบไปด้วย Strategics Supplier, Key Supplier และ Manage Supplier เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์กับคู่ค้า (Supplier Relationship Management: SRM) อย่างมีประสิทธิภาพและยกระดับการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนี้

ระดับความสำคัญของคู่ค้า คำจำกัดความ การจัดการเชิงกลยุทธ์ เครื่องมือสำหรับการบริหารจัดการ
Strategic / Significant Supplier คู่ค้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ และมีความเสี่ยงสูงในการเกิดผลกระทบต่อตัวคู่ค้าเองและชุมชนโดยรอบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อผู้ซื้อทั้งทางด้านธุรกิจและภาพลักษณ์องค์กร พัฒนาความสัมพันธ์และเพิ่มศักยภาพไปในทิศทางเดียวกันเพื่อเพิ่มมูลค่า
  • จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต/จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ (Supplier Code of Conduct)
  • การประเมินตนเอง (Self-Assessment Questionnaire)
  • การตรวจประเมินด้านการดำเนินงานอย่างยั่งยืน (ESG Risk Assessment)
  • การเสริมสร้างศักยภาพคู่ค้า
  • การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับคู่ค้า
Key Supplier คู่ค้าที่มีกิจกรรมการดำเนินงานที่ผลิตภัณฑ์กระจายไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งมีผลกระทบสูงต่อผู้ซื้อทั้งด้านธุรกิจและภาพลักษณ์องค์กร มีการตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริหาร
  • จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต/จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ (Supplier Code of Conduct)
  • การเสริมสร้างศักยภาพคู่ค้า
Managed Supplier คู่ค้าที่มีกิจกรรมการดำเนินงานส่วนใหญ่ในเชิงปฏิบัติการ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อชุมชนหรือบริเวณใกล้เคียง และมีความเสี่ยงน้อยถึงปานกลางต่อผู้ซื้อ มุ่งเน้นการบริหารสัญญาเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญา
  • จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต/จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ (Supplier Code of Conduct)

การตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า (Supplier Assessment)

บริษัทฯ มีกระบวนการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ผ่านการประเมินประสิทธิภาพการทำงานรายปี (Yearly Performance Evaluation) เพื่อสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นกับคู่ค้า และให้มั่นใจว่าคู่ค้ามีการดำเนินงานตามจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ (Business Code of Conduct) จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต /จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ (Supplier Code of Conduct) และไม่ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม (Environmental Social and Governance: ESG) รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น ISO9001 ISO14001 ISO45001 เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยเกณฑ์การตรวจประเมินคู่ค้าด้านการดำเนินงานอย่างยั่งยืน ESG หากประเมินแล้วกลุ่มคู่ค้ามีความเสี่ยงด้าน ESG สูง ทางบริษัทฯ จะดำเนินการสอบทานและแนะนำ พร้อมทั้งเสาะหาโอกาสในการให้ความช่วยเหลือกับคู่ค้า ให้มีการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานให้มีผลประเมิน ESG ดียิ่งขึ้น

บริษัทฯ มีการตรวจประเมินคู่ค้าอย่างละเอียด โดยใช้มาตรฐานและแนวทางวิธีการที่กำหนดตามมาตรฐานสากล โดยดำเนินการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ทั้งนี้การตรวจประเมินมีทั้งรูปแบบการตรวจประเมินเอกสารและตรวจประเมินสถานที่ปฏิบัติงานจริง

  • ระบบการประเมินตนเอง (Desktop Self-Assessment Questionnaire: SAQ) บริษัทฯ ได้นำระบบแพลตฟอร์มการบริหารจัดการความยั่งยืนในระดับมาตรฐานสากลสำหรับคู่ค้าเพื่อดำเนินการประเมิน และติดตามประสิทธิภาพด้านความยั่งยืน อาทิ Ecovadis มาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบการดำเนินงานของคู่ค้า
  • การตรวจประเมินพื้นที่โดยตัวแทนของพนักงานจัดหาหรือหน่วยงานผู้ใช้งานคู่ค้าโดยใช้แบบฟอร์มตรวจประเมิน “เกณฑ์การประเมินศักยภาพด้านความยั่งยืนของผู้ค้า” ที่มีข้อคำถามสอดคล้องกับการดำเนินงานด้าน ESG ตามเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนดและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • การตรวจรับรองโดยบุคคลที่ 3 หรือหน่วยงานที่ให้การรับรอง (Supplier on-site Assessment by Third Party) ตามมาตรฐานต่างๆ ได้แก่ มาตรฐาน แรงงาน ISO 9001, สิ่งแวดล้อม ISO 14001, สุขภาพและความปลอดภัย ISO 45001 และ จริยธรรมทางธุรกิจ SMETA 4 Pillar เป็นต้น โดยการตรวจรับการรับรองดังกล่าวดำเนินการโดย สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (The Management System Certification Institute (Thailand): MASCI)

นอกจากนี้ ในระหว่างการดำเนินงานหรือภายหลังการส่งมอบงาน หน่วยงานผู้ใช้งานคู่ค้าสามารถร้องเรียนและนำเสนอปัญหาที่เกิดจากการใช้งานหรือประเด็นความเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ ผ่านกระบวนการ Vender Criticism ได้ หากคู่ค้ารายใดมีข้อร้องเรียนในการดำเนินงาน หรือไม่ผ่านการประเมิน บริษัทฯ จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหา ให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ ระบุมาตรการเพื่อการแก้ไขหรือพัฒนา พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาในการแก้ไขที่เหมาะสมกับประเด็นปัญหาและวิธีการแก้ไขร่วมกันกับผู้เกี่ยวข้อง ก่อนที่บริษัทฯ จะทำการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้หากคู่ค้าไม่สามารถดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ได้ บริษัทฯ จะพิจารณาระงับการจัดซื้อจัดจ้างชั่วคราวหรือถอนชื่อออกจากทะเบียนคู่ค้าของบริษัทฯ ต่อไป

โดยมีตัวอย่างข้อเสนอแนะหรือมาตรการเพื่อการแก้ไขหรือพัฒนาการดำเนินงานของคู่ค้า ดังนี้

ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) ข้อเสนอแนะหรือมาตรการเพื่อการแก้ไขหรือพัฒนา
การจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management)
  • จัดเก็บข้อมูลการใช้พลังงานในองค์กรอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เช่น การใช้น้า ใช้ไฟฟ้า น้ำมัน เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำผลการดำเนินงานไปเพื่อหาวิธีแก้ไข ป้องกัน ปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อไป
  • ฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับพนักงาน มีเอกสารประกอบและมีการบันทึกผลการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ
  • การเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเอกสารอย่างเป็นระบบ
ประเด็นด้านสังคม (Social) ข้อเสนอแนะหรือมาตรการเพื่อการแก้ไขหรือพัฒนา
การบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (OHS Management)
  • การเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ
  • เพิ่มเติมเวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด และมีการตรวจสอบสม่ำเสมอ
สิทธิมนุษยชน (Human Rights)
  • การจัดทำสัญญาจ้างของพนักงานชั่วคราว
ประเด็นด้านการกำกับดูแลกิจการ (Governance & Economic) ข้อเสนอแนะหรือมาตรการเพื่อการแก้ไขหรือพัฒนา
การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ (Compliance with Laws and Regulations)
  • การสื่อสารนโยบายการดำเนินงาน เช่น นโยบายความยั่งยืน นโยบายคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคม นโยบายการรักษาความลับ ข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่น นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ไปยัง Supply chain ขององค์กร
  • กำหนดแนวทางการปฏิบัติและตัวชี้วัดผลความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมที่เกี่ยวข้องกับนโยบายต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้

ผลการตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า (Supplier Assessment Result) GRI 308-2, GRI 414-2

บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจประเมินการดำเนินงานทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) กับกลุ่มคู่ค้าที่สำคัญในปี 2566 จำนวนทั้งสิ้น 153 ราย โดยพบว่าไม่มีการดำเนินงานที่ละเมิดต่อสิทธิแรงงานหรือสิทธิมนุษยชนหรือละเมิดด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี จรรยาบรรณทางธุรกิจ และไม่มีการร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน จริยธรรม การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือจรรยาบรรณทางธุรกิจผ่านกลไกการร้องเรียนของบริษัทฯ (Vender Criticism) นอกจากการประเมินคู่ค้าแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการให้คำแนะนำ และสนับสนุนเพื่อพัฒนาศักยภาพคู่ค้าที่ไม่ผ่านการประเมิน และพัฒนาอบรมเพิ่มศักยภาพคู่ค้าเพื่อให้การดำเนินงานของคู่ค้าสอดคล้องกับจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต/จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ (Supplier Code of Conduct) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระบวนการจัดหาให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่พนักงาน ตลอดจนสร้างความเป็นธรรมแก่คู่ค้า อาทิ นำระบบเทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) โปรแกรมอัตโนมัติที่ทำงานทดแทนพนักงานในการออกใบขอราคา การเปรียบเทียบราคา การออกใบสั่งซื้อ และการส่งใบสั่งซื้อไปยังคู่ค้า ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีประสิทธิภาพการทำงานด้านการจัดหาที่เพิ่มขึ้น และใช้ต้นทุนในการดำเนินดำเนินการที่ลดลง โดยสามารถดำเนินการจัดหาได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการทำงานลง ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ มีประสิทธิภาพ และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาอีก 4 ระบบ คือ

  1. ระบบ Vendor Management System (VMS) เป็นระบบการบริหารจัดการคู่ค้ามาใช้ในการขึ้นทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ จัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่คู่ค้าได้รับการอนุมัติในทะเบียน
  2. ระบบ AI Spend Analysis เป็นการนำเครื่องมือมาใช้ในการวิเคราะห์มูลค่าการจัดหาเพื่อวางแผนงานจัดซื้อจัดจ้าง
  3. ระบบ Smart Work Request คือระบบการสั่งจ้างงานบริการไปยังผู้รับเหมาที่มีสัญญารายปีกับบริษัทฯ จากเดิมที่มีการเรียกใช้บริการโดยผู้ใช้งานทางเอกสาร มาเป็นเรียกใช้ผ่านระบบออนไลน์ ที่สามารถตรวจสอบจำนวนการเรียกใช้บริการ ค่าใช้จ่าย ได้ทั้งหมดอย่างครบถ้วนและรวดเร็ว
  4. ระบบ New Po Tracking System ระบบนี้จะช่วยติดตามการส่งของตามคำสั่งซื้อที่ได้ดำเนินการออก PO

รวมถึงการเพิ่มช่องทางการสื่อสารโดย แชทบอท (GC procurement Chat BOT) เพื่อใช้ในการสื่อสาร และตอบคำถามของคู่ค้าได้อย่างฉับไว ลดกระบวนการในการสื่อสารและกระบวนการทำงาน