โครงการสร้างคุณค่าร่วมกันและวิสาหกิจเพื่อสังคม
บริษัทฯ ยกระดับโครงการรับผิดชอบต่อสังคม ให้เป็นโครงการสร้างคุณค่าร่วมกัน (Creating Shared Value: CSV) และวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ และความเกี่ยวเนื่องกับกลยุทธ์ทางด้านความยั่งยืนในการเพิ่มมูลค่าให้กับชุมชน
โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Upcycling วัดจากแดง

บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ Our Khung Bangkachao ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งเป็นการสานพลังความร่วมมือระหว่างองค์กรชั้นนำกว่า 34 องค์กรของประเทศไทย (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2561) ภายใต้การกำกับของมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อดำเนินกิจกรรมในการลดปัญหาขยะในพื้นที่โดยการจัดการขยะตามแนวทาง Circular Economy และสร้างจิตสำนึกการจัดการปัญหาขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งบริษัทฯ ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และเป็นพี่เลี้ยงให้กับวิสาหกิจชุมชนบ้านวัดจากแดง
ในปี 2567 บริษัทฯ ต่อยอดโครงการโดยออกแบบและผลิตสินค้าจากผ้า Upcycling ของวัดจากแดงให้มีความสวยงามทันสมัย ดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ สร้างการตระหนักรู้ถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำ ISSUE Thailand นำอัตลักษณ์ของคุ้งบางกะเจ้า อาทิ ตัวนาก ต้นจาก กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฯ มาเป็นลวดลายบนผืนผ้าที่ผลิตจากขวดพลาสติกไม่ใช้แล้ว ซึ่งรายได้ทั้งหมดกลับสู่วิสาหกิจชุมชนบ้านวัดจากแดง เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Collection ใหม่ต่อไป ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้นำเสนอสู่เวทีระดับนานาชาติ “Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2024” แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างการรับรู้และขยายผลกระทบของโครงการ CSR สู่ระดับสากล โครงการนี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ Upcycling รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการออกแบบ การพัฒนาสินค้าและการต่อยอดธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้และอาชีพให้กับชุมชนบ้านวัดจากแดงได้อย่างยั่งยืน ประชาชนทั่วไปรับรู้และเข้าใจกระบวนการ Upcycling และคุ้งบางกะเจ้ามากขึ้น
โครงการพลาสติกป้องกันภัย ป้องกันชีวิต (Protect Risk Protect Life with Plastic Flapped Sack Project)


โครงการ “พลาสติกป้องกันภัย ป้องกันชีวิต” เป็นโครงการที่บริษัทฯ ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนาชัยพัฒนา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกแบบและพัฒนากระสอบพลาสติกแบบมีปีกขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขและบรรเทาความเสียหายจากพิบัติภัยดินโคลนถล่ม ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง ซึ่งกระสอบฯ ต้นแบบผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE ของ GC และเม็ดพลาสติก PP ถูกนำไปถักทอให้มีความเหนียว แข็งแรง และเติมสารป้องกัน UV เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และที่พิเศษกว่ากระสอบทั่วไป คือเป็นกระสอบที่มีปีก 3 ด้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงยึดเหนี่ยวเมื่อมีการวางทับซ้อนกัน ทำให้ไม่เลื่อนหลุดออกจากกัน
โดยแผนงานสำหรับโครงการนี้ประกอบไปด้วย
- ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อนำกระสอบฯ ไปใช้ในการแก้ไขและบรรเทาความเสียหายจากพิบัติภัยดินโคลนถล่ม รวมทั้งบรรเทาปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
- เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการนำกระสอบฯ ไปใช้งานในพื้นที่ที่ประสบภัย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การสร้างมูลค่าตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (SROI)
ในปี 2567 บริษัทฯ ดำเนินงานสนับสนุนกระสอบพลาสติกแบบมีปีกที่มีส่วนผสมของพลาสติกใช้แล้ว จำนวน 3,000 ใบ ให้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำหรับใช้ป้องกันการชะล้างพังทลายบริเวณริมถนนและเชิงเขาพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอวางแผนจัดเรียงกระสอบในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้การสนับสนุนโครงการวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ อาทิ
โครงการ SMART FARMING BY GC (SMART FARMING BY GC)
โครงการ SMART FARMING BY GC โครงการเพื่อสังคม ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรของบริษัทฯ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของชุมชน รวมถึงพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรให้สามารถบริหารจัดการผลผลิตให้ได้มาตรฐานและบริหารจัดการกิจการได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการต่อยอดการใช้งานผลิตภัณฑ์พลาสติกให้เกิดคุณค่า อาทิ ถุงพลาสติกยืดอายุผักใช้บรรจุผลผลิตที่เก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่าย พลาสติกคลุมโรงเรือนที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) และถังน้ำพลาสติก InnoPlus ผลิตจากเม็ดพลาสติก LLDPE เกรดพิเศษ โดยดำเนินการใน 3 พื้นที่คือ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์หอมมะหาด และวิสาหกิจชุมชนป๋าระไฮโดรฟาร์ม

ในปี 2567 บริษัทฯ ต่อยอดโครงการร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดยนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมของบริษัทฯ มาพัฒนายกระดับกระบวนการผลิตและคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร เพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยใช้ระบบ IOT (Internet of Things) Smart Farm ผลิตภัณฑ์พลาสติกของบริษัทฯ รวมถึงระบบพลังงานทางเลือก Solar Energy มาส่งเสริมอาชีพ เพิ่มผลผลิตให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยขยายพื้นที่พัฒนาไปยังทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง วิทยาลัยการอาชีพแกลง อ.แกลง และวิสาหกิจชุมชนโกโก้วังจันทร์ อ.วังจันทร์ โดยมุ่งหวังให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรสมัยใหม่ให้แก่เกษตรกร สร้างอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน
จากปี 2565-2567 โครงการ SMART FARMING BY GC สร้างรายได้สู่เกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรวมทั้งสิ้น 688,250 บาท สามารถลดค่าแรงและค่าใช้จ่ายในการทำงานได้ 216,000 บาท คิดเป็น SROI เท่ากับ 5.29
วิสาหกิจเกษตรอินทรีย์หอมมะหาด (Hom Mahat Organic Farming Community Enterprise)
โครงการฟื้นป่า สร้างแหล่งเรียนรู้ วิถีชุมชนยั่งยืน (เขาห้วยมะหาด) ซึ่งริเริ่มในปี 2553 เกิดจากความร่วมมือของ 4 องค์กร ได้แก่ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ชมรมคนรักษ์ป่า ชากลูกหญ้า-เขาห้วยมะหาด และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศของผืนป่า ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมในพื้นที่ ส่งเสริมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จนนำไปสู่การพัฒนาและจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์หอมมะหาด โดยการนําพืชสมุนไพรที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนเขาห้วยมะหาด ได้แก่ เร่วหอม และว่านสาวหลง มาให้เกษตรกรในพื้นที่ ปลูกในรูปแบบออแกนิคโดยมีมูลนิธิสังคมสุขใจเป็นที่ปรึกษา และนำสวนสามพรานโมเดลมาเป็นต้นแบบในการขยายผลกับกลุ่มดังกล่าวจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ ชาว่านสาวหลง น้ำมันเขียว ลูกประคบ และยาดม นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังได้นํากล้าสมุนไพรที่มีการขยายพันธุ์เพิ่มเติม กลับขึ้นไปปลูกคืนสู่เขาห้วยมะหาดอีกด้วย ทั้งนี้ในปี 2567 สามารถสร้างรายได้เข้าสู่กลุ่มเป็นเงิน 70,336 บาท โดยเป็นรายได้สะสมระหว่างปี 2565-2567 รวมทั้งสิ้น 393,689 บาท
โครงการธุรกิจเพื่อสังคม ร้านควินินคาเฟ่ วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง (Social Enterprise Quinine Cafe' Rayong Industrials Estate Technical College)

บริษัทฯ ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง ต่อยอดผลิตภัณฑ์ออแกนิคชุมชน และพัฒนาร้านควินินคาเฟ่ของวิทยาลัยฯ ตามแนวทางวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) โดยนำวัตถุดิบจากชุมชน อาทิ เร่วหอม ว่านสาวหลง ใบบัวบก และขิง มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพและของฝาก ตลอดจนนำองค์ความรู้ที่ได้ไปบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอน และเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทฯส่งเสริมให้มีการพัฒนาเมนูอาหารสำหรับคาเฟ่ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยได้นำเชฟชุมชนจากโครงการเชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง (ฮิ) มาสอนจำนวน 15 เมนู ให้กับบุคลากรครูและนักศึกษาแผนกวิชาอาหารและโภชนาการ จำนวน 15 คน ส่งเสริมรายได้เป็นเงินจำนวน 886,277 บาท สำหรับเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนและพัฒนาต่อยอดการสอนของวิทยาลัยฯ โดยคิดเป็น SROI เท่ากับ 550.60 ทั้งนี้สถานศึกษาและประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถติดต่อขอเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นเพื่อนำไปประกอบอาชีพได้ด้วย
โครงการธุรกิจเพื่อสังคม บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด

บริษัทฯ ร่วมดำเนินโครงการประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 ภายใต้แนวคิด Social Enterprise (SE) มีเป้าหมายหลักเพื่อคืนประโยชน์สู่สังคม ผ่านการดำเนินงาน 3 ส่วน ประกอบด้วย การเกษตร การแปรรูป (SMEs/OTOP) และการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยกำไรจากกิจกรรมของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยองฯ จะนำกลับไปส่งเสริมชุมชน โดยไม่ปันผลกำไรแก่ผู้ถือหุ้น โดยโครงการดังกล่าวช่วยส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับ ก่อให้เกิดการสร้างอาชีพและรายได้หมุนเวียนภายในชุมชนและอาชีพให้แก่ชุมชน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยอง ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยองฯ มีผลการดำเนินงาน ดังนี้
- “ร้านรักระยอง” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เป็นการรวบรวมผลิตภัณฑ์ของดีเมืองระยองชูความเป็นหนึ่งของดีและทันสมัย เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และรูปแบบของวิสาหกิจชุมชน เพื่อส่งเสริมและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่สินค้าชุมชนในจังหวัดระยอง ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนชาวระยอง เนื่องจากเป็นการเพิ่มพื้นที่แสดงและจำหน่ายสินค้าชุมชน โดยมีเป้าหมาย คือ “สร้างรายได้ให้กับชุมชน เพื่อประชาชนมีความสุข”
- ในปี 2567 สร้างรายได้จากการดำเนินงาน 656,337 บาท กำไรสุทธิ 143,871.02 บาท คิดเป็น SROI เท่ากับ 2.11