โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม
บริษัทฯ ดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและโครงการที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ภายใต้ CSR Master Programs ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสมดุลด้าน 2E1S และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
โครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมในปี 2565
2563
2564
2565

จำนวนกิจกรรมและโครงการเพื่อสังคม
โครงการ

จำนวนจังหวัดที่ได้เข้าไปดำเนินกิจกรรมและโครงการเพื่อสังคม
จังหวัด

จำนวนชุมชนที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม
ชุมชน
รูปแบบการลงทุนและบริจาคเพื่อสังคม | ปี 2563 (ล้านบาท) |
ปี 2564 (ล้านบาท) |
ปี 2565 (ล้านบาท) |
---|---|---|---|
บริจาคเงินสด | 113.29 | 302.22 | 94.98 |
บริจาคสิ่งของ | 45.43 | 78.18 | 26.57 |
ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ | 48.23 | 41.30 | 56.22 |
เวลาในการบริหารสังคมของพนักงานบริษัทฯ | 8.8 | 4.7 | 9.4 |
ผลลัพธ์จากกิจกรรมและโครงการเพื่อสังคม | ปี 2563 | ปี 2564 | ปี 2565 |
---|---|---|---|
จำนวนกิจกรรมและโครงการเพื่อสังคม | 117 โครงการ | 217 โครงการ | 372 โครงการ |
จำนวนจังหวัดที่ได้เข้าไปดำเนินกิจกรรมและโครงการเพื่อสังคม | 32 จังหวัด | 77 จังหวัด | 12 จังหวัด |
จำนวนชุมชนที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม | 88 ชุมชน | 88 ชุมชน | 88 ชุมชน |
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดลำดับความสำคัญของโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมบนพื้นฐานของ 3 องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การแบ่งปัน และระบบนิเวศ โดยครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม
ด้านเศรษฐกิจ
ด้านสังคม
ด้านสิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าสูงสุดต่อสังคมและธุรกิจ
คำอธิบายความสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบความรับผิดชอบต่อสังคมและการขับเคลื่อนทางธุรกิจ
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ รายได้และเศรษฐกิจรวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ภายใต้แนวคิดความเป็นอยู่อย่างพอเพียง (Self-Sufficiency) และยั่งยืน (Self-Sustainability) ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งดำเนินโครงการและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมที่สนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ พร้อมกับพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อมอบคุณค่าในระยะยาวให้กับสังคม
โครงการ Community Waste Model
บริษัทฯ ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดลูกหญ้า ดำเนินโครงการ Community Waste Model โดยนำ YOUเทิร์น Platform ซึ่งเป็นนวัตกรรมของบริษัทฯ ในการจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง (End to End Waste Management) เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์และการบริโภคพลาสติก (Responsible Consumption and Production)
ทั้งนี้สามารถรวบรวมขวดพลาสติกใช้แล้ว เข้าสู่ ENVICCO โรงงานรีไซเคิลพลาสติกมาตรฐานสากลของบริษัทฯ ได้ปริมาณมากกว่า 50 ตัน และขยะรีไซเคิลอื่นๆ อีกมากกว่า 33 ตัน ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชน ทำให้วิสาหกิจชุมชนมีรายได้มากกว่า 1.5 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้จัดตั้ง Recycle Hub ไปแล้วทั้งสิ้น 3 แห่ง ในปี 2565 และอยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนขยายผลโครงการฯ ไปยังชุมชนอื่นๆ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายจัดตั้ง Recycle Hub ให้ได้รวมทั้งหมด 50 แห่ง ภายในปี 2570

ตัวชี้วัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ (Business Benefit KPI)
- ขวดพลาสติกใช้แล้วของชุมชนมีคุณภาพดีทำให้ Yield การผลิตของบริษัท ENVICCO สูงขึ้นร้อยละ 15
- เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและบริษัทฯ โดยวัดผลจากมูลค่าทางการประชาสัมพันธ์ (PR Value) 5,725,000 บาท
- เสริมสร้างขีดความสามารถด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรม
- เสริมสร้างการบรรลุเป้าหมายและภาพลักษณ์ด้านการเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน
ตัวชี้วัดผลทางสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social / Environmental Benefit KPI)
1.
ผลลัพท์ทางสังคมจากการลงทุน (SROI) เท่ากับ
2.
สร้างรายได้ให้ชุมชนจากการขายขยะเข้าสู่ระบบรีไซเคิล
บาท/ปี
3.
สามารถนำขวด PET/HDPE กลับมารีไซเคิลได้รวมทั้งหมดประมาณ
ตัน/ปี
4.
ลดภาระค่ากำจัดขยะของหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นได้ถึง
บาท/ปี
5.
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ (Virgin Plastic) และการฝังกลบได้ประมาณ
ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่า การปลูกต้นไม้ใหญ่ ต้น เพื่อดูดซับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น
การแบ่งปัน
แบ่งปันความเชี่ยวชาญสู่สังคม และบรรลุการสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ
คำอธิบายความสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบความรับผิดชอบต่อสังคมและการขับเคลื่อนทางธุรกิจ
โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทฯ มีส่วนช่วยในการสร้างความแข็งแรงให้กับองค์กร โดยการแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทฯ และได้รับการยอมรับจากชุมชนและสังคม พร้อมกับได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ
โครงการ Rayong Organic Living, LUFFALA Room Diffuser: Recreation Series
บริษัทฯ ร่วมมือกับบริษัท ปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มลุฟฟาลา และกลุ่มเกษตรอินทรีย์หอมมะหาด จัดทำโครงการ Rayong Organic Living เพื่อยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์ไทยออร์แกนิกที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่สนใจวิถีอินทรีย์ในระดับสากล ยกระดับการสร้างงานและรายได้ให้แก่ชุมชน โดยส่งเสริมให้ความรู้กับชุมชนท้องถิ่นในการเพาะปลูกและนำวัตถุดิบอินทรีย์มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก อาทิ แชมพู สบู่เหลว ครีมบำรุงผิว และสบู่ล้างมือ อีกทั้ง บริษัทฯ ยังช่วยให้คำปรึกษากับชุมชนด้านการตลาด ด้านการผลิต และการทำบัญชี

ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการร่วมกับวิสาหกิจชุมชนลุฟฟาลา ชุมชนหนองแฟบ และพันธมิตรกลุ่มเกษตรอินทรีย์หอมมะหาด ชุมชนบ้านเขาห้วยมะหาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ LUFFALA Room Diffuser: Recreation Series น้ำมันหอมระเหยปรับอากาศ ซึ่งมีการคำนึงถึงความยั่งยืนและความเชื่อมโยงในมิติของสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน (Social Economy) โดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำในการส่งเสริมการปลูกสมุนไพร การควบคุมคุณภาพการเพาะปลูกด้วยแนวคิด Smart Farming ไปจนถึงกระบวนการปลายน้ำในการต่อยอดการสกัดน้ำมันหอมระเหย นำมาผสานเข้ากับนวัตกรรมตัวสารทำละลายจากธรรมชาติ (Green Solvent) ของกลุ่มบริษัทฯ และปรุงกลิ่นจนเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของลุฟฟาลา

ตัวชี้วัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ (Business Benefit KPI)
- แสดงจุดยืนในการขับเคลื่อนการสร้างคุณค่าทางธุรกิจร่วมกันกับสังคม
- เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน
- สร้างรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากโครงการกว่า 2,689,680 บาท
ตัวชี้วัดผลประโยชน์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social / Environmental Benefit KPI)
1.
ผลลัพธ์ทางสังคมจากการลงทุน (SROI) เท่ากับ
2.
สร้างรายได้ให้กับชุมชนและวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยอง
บาท/ปี
ระบบนิเวศ
พัฒนาความยั่งยืนของระบบนิเวศ เพื่อชดเชยผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
คำอธิบายความสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบความรับผิดชอบต่อสังคมและการขับเคลื่อนทางธุรกิจ
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับวิธีการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการมีระบบนิเวศที่ยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value chain) โดยดำเนินโครงการเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่หลักของที่ตั้งพื้นที่ปฏิบัติงานของบริษัทฯ
โครงการ GC รวมพลังรักษ์น้ำ
โครงการ GC รวมพลังรักษ์น้ำ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ ภาครัฐ สถาบันการศึกษา และชุมชนในพื้นที่จังหวัดระยองมาตั้งแต่ปี 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งในพื้นที่ชุมชน และช่วยสนับสนุนให้ชุมชนมีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์แหล่งน้ำและใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ซึ่งกิจกรรมที่ได้ดำเนินงาน ประกอบด้วย
- การสร้างแนวป้องกันตลิ่งพังด้วยกระสอบพลาสติกแบบมีปีก เพื่อลดการกัดเซาะตลิ่ง และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ (พื้นที่ดำเนินงาน ได้แก่ คลองตายาย ชุมชนเจริญพัฒนา)
- การสร้างฝายกักเก็บน้ำ-ฝายดักตะกอน ด้วยกระสอบพลาสติกแบบมีปีก เพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูแล้ง ลดปัญหาตะกอนดินสะสมในลำน้ำ ส่งผลให้ลำน้ำมีความลึกมากพอที่จะรับน้ำในช่วงฤดูฝนและช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าขุดลอกคลอง และค่าน้ำสำหรับการอุปโภคและการเกษตร (พื้นที่ดำเนินงาน ได้แก่ คลองหลังโรงเรียนบ้านเขาห้วยมะหาด และลำน้ำเหนือวัดซอยคีรี)
- การสรางฝายชะลอน้ำด้วยวัสดุธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่จำนวน 11 ฝาย สำหรับเป็นแหล่งน้ำและอาหารของสัตว์ป่า หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ พบร่องรอยช้างป่าเข้ามาหากินใกล้บริเวณฝายชะลอน้ำ (พื้นที่ดำเนินงาน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง)
- การสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้โรงเรียนที่ขาดแคลนในจังหวัดระยอง โดยได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) พร้อมด้วยถังน้ำ InnoPlus เพื่อให้นักเรียนได้ดื่มน้ำที่สะอาดอย่างเพียงพอ และประหยัดเงินในการซื้อน้ำขวด ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้สนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้แก่โรงเรียนจำนวน 5 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ โรงเรียนบ้านตะพุนทองและโรงเรียนบ้านยายจั่น อำเภอเมืองระยอง โรงเรียนบ้านคลองยายเมือง อำเภอบ้านค่าย โรงเรียนบ้านเขาตาอิ๋น อำเภอวังจันทร์ และโรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 3 อำเภอนิคมพัฒนา
- การจัดทำธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิด เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็ม ภัยแล้ง และน้ำท่วมขัง ให้แก่เกษตรกรชาวสวน ถือเป็นการช่วยสร้างความมั่นคงของทรัพยากรน้ำให้แก่พื้นที่ โดยใช้หลักให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ทั้งนี้ ในปี 2563 – 2565 พนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ ร่วมกับเทศบาลเมืองมาบตาพุดและชุมชน ได้มีการจัดทำธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่การเกษตรของชุมชนกรอกยายชาและชุมชนหนองแตงเม จังหวัดระยอง เป็นพื้นที่นำร่อง จำนวนทั้งสิ้น 20 จุด ครอบคลุม 17 สวน และในปี 2565 โครงการธนาคารน้ำใต้ดินยังได้รับรางวัล COMMUNITAS AWARDS จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเลิศด้านการรับผิดชอบต่อสังคม สาขาจริยธรรมและความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน อีกด้วย


ตัวชี้วัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ (Business Benefit KPI)
- เพิ่มมูลค่าทางการประชาสัมพันธ์ (PR Value) ของบริษัทฯ 290,000 บาท
- สร้างความเชื่อมั่นให้ชุมชน และลดความขัดแย้งด้านการจัดการน้ำระหว่างชุมชนกับบริษัทฯ
- หลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของกระบวนการผลิตจากการขาดแคลนน้ำ
ตัวชี้วัดผลประโยชน์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social / Environmental Benefit KPI)
1.
ผลลัพธ์ทางสังคมจากการลงทุน (SROI) เท่ากับ
2.
ธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิดช่วยกักเก็บน้ำฝนลงสู่ใต้ดินและแผ่กระจายไปยังบ่อผิวดิน/บ่อบาดาล ช่วยให้สวนมีน้ำใช้สำหรับทำการเกษตรตลอดทั้งปีเป็นปริมาณ
ลิตร
คิดเป็นมูลค่า 126,200 บาท/ปี (อ้างอิงราคาน้ำประปาเฉลี่ยของปี 2565 ราคาลิตรละ 0.02412 บาท)
3.
โรงเรียนมีน้ำดื่มสะอาด และช่วยนักเรียนประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้อน้ำขวดได้ 233,060 ลิตร/ปี คิดเป็นเงิน
บาท