กลยุทธ์ด้านภาษี
“บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ยึดมั่นการปฏิบัติตามนโยบายและหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและตระหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินการด้านภาษีเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับผู้มีส่วนได้เสียและชุมชนที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ”
บริษัทฯ ดำเนินกลยุทธ์ด้านภาษีด้วยความเที่ยงตรง โปร่งใส และยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ โดยวางหลักเกณฑ์การบริหารจัดการด้านกลยุทธ์และนโยบายทางภาษีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดจากการดำเนินงานอันยาวนานที่ผ่านมา
ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง ได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินการบริหารความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงด้านภาษี โดยมอบหมายให้คณะผู้บริหารเป็นผู้รายงานความคืบหน้าด้านการบริหารความเสี่ยงให้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้รับทราบเป็นประจำ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบมีหน้าที่ประเมินประสิทธิผลในการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ โดยใช้ข้อมูลจากรายงานผลประกอบการของบริษัทฯ รายงานการตรวจสอบภายใน และรายงานของผู้สอบบัญชี ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถควบคุมและปรับลดความเสี่ยงที่อาจมีขึ้นให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
บริษัทฯ มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งเดินหน้าสนับสนุนการประกอบธุรกิจและธุรกรรมการพาณิชย์ในแต่ละวัน รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรและการบริหารองค์กรให้มีความต่อเนื่อง คล่องตัว เหมาะสม และยั่งยืน เพื่อให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการปฏิบัติตามระบบภาษีสากลที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายด้านภาษีที่ประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่
เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิบัติตามภาษี กลุ่มบริษัทฯ จึงยึดมั่นในหลักการการกำกับดูแลและปฏิบัติงานทางด้านภาษีอย่างถูกต้อง ตลอดจนมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการงานทางด้านภาษีอย่างเป็นเลิศ และสามารถแข่งขันได้ เพื่อเป็นผู้นำและสร้างประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างยั่งยืน
กลุ่มบริษัทฯ ปฏิบัติตามกฏหมายและกฎระเบียบภาษีอากรอย่างครบถ้วนในทุกประเทศที่มีการดำเนินธุรกิจ โดยมีแผนการจัดการและลดความเสี่ยงทางด้านภาษี เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นรวมถึงผลกระทบทางด้านภาษีอย่างเหมาะสม และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางภาษีหรือแนวทางการบริหารจัดการทางภาษีจากทางภาครัฐ อีกทั้งยังมีการจัดเก็บนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความเสี่ยงและการประเมินความเสี่ยงทางด้านภาษีอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตระหนักถึงความเสี่ยงทางด้านภาษีซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทฯ จากการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ปลอดภาษี (Tax Haven) ดังนั้น สำหรับการลงทุนในลักษณะที่ไม่มีการประกอบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตัวเอง โดยอาจเป็นการถือหุ้นหรือลงทุนในบริษัทอื่นเป็นหลัก เช่น Holding Company และ Investment Fund เป็นต้น บริษัทฯ กำหนดให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในประเทศที่มีความเสี่ยง โดยพิจารณาตามเงื่อนไขของมาตรการ Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) Action 5: Harmful Tax Practices ซึ่งได้แก่ ประเทศที่ไม่มีการจัดเก็บภาษีเงินได้ หรือประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกภายใต้กรอบความร่วมมือ Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting (Inclusive Framework on BEPS) ขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (The Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) หรือประเทศที่ไม่เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนข้อมูล (Exchange on Information: EOI) ทางภาษีที่อยู่ในรายชื่อสมาชิก Global Forum ของ OECD
กลุ่มบริษัทฯ มีความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลทางด้านภาษีอากรแก่ภาครัฐ โดยเป็นไปอย่างครบถ้วนตรงตามความต้องการทางด้านกฎหมาย พร้อมทั้งยินดีให้ความร่วมมือในการพัฒนาการเปิดเผยข้อมูลทางด้านภาษีสู่สาธารณชนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงมีความมุ่งมั่นในความเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี ความเป็นเลิศในการจัดการทางด้านภาษี และความโปร่งใสทางด้านภาษี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
Tax Roadmap

การกำกับดูแลทางภาษี (Tax Governance)
- คณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการ เป็นผู้ลงนามรับรอง กลยุทธ์และนโยบายทางด้านภาษีของบริษัทฯ
- เสริมสร้างการกำกับดูแล นโยบาย และแนวทางการปฏิบัติงานทางด้านภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ
- ดำเนินการกำกับดูแลการกำหนดราคาโอนระหว่างกันในกลุ่ม (Transfer Pricing) อย่างครบถ้วน โดยให้สอดคล้องกับแนวทางของ OECD และใช้หลักการ ตาม Arm’s Length Principle

การบริหารความเสี่ยงทางภาษี (Tax Risk Management)
- ดำเนินการบริหารความเสี่ยง และติดตามแผนการปฎิบัติงานเพื่อลดความเสี่ยงทางด้านภาษีที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มบริษัทฯ
- ดำเนินการตรวจทานการปฏิบัติงานทางด้านภาษี (Tax Health Check) โดยที่ปรึกษาทางภาษีอย่างสม่ำเสมอ
- จัดทำแผนฝึกอบรม Tax Training Program เพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้และพัฒนาความรู้ทางด้านภาษี พร้อมทั้งเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้อย่างต่อเนื่อง
- หลีกเลี่ยงการลงทุนในประเทศปลอดภาษี (Tax Haven) หรือเสียภาษีต่ำ เพื่อไม่ให้บริษัทฯ มีความเสี่ยงต่อชื่อเสียงขององค์กรทางด้านภาษี
- วางแผนและติดตาม Transfer Pricing Risk Analysis ในกลุ่มบริษัทฯ
- ติดตามและประเมินความเสี่ยงทางด้านภาษีโดยเฉพาะกับมาตรการ Base Erosion and Profit Shifting Project (BEPS Project) อย่างต่อเนื่อง อาทิ Substance, BEPS 2.0

การปฏิบัติงานทางด้านภาษี (Tax Compliance)
- จัดทำและอัปเดตแนวปฏิบัติงานทางด้านภาษี (Tax Procedures)
- ริเริ่ม Tax Alert เพื่อสื่อความกฎหมายและกฎข้อบังคับใหม่ๆ ในทางภาษี
- ประยุกต์ใช้ Control Self-Assessment (CSA) ในกระบวนการทำงานทางด้านภาษี
- นำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้กับกระบวนการทางด้านภาษีภายในกลุ่มบริษัทฯ New
- ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ Tax compliance monitoring & Tax Advisory
- พัฒนาระบบการนำส่งข้อมูลภาษีผ่าน e-Platform เช่น: e-Filling, e-Tax Invoice & e-Receipt, e-Withholding Tax (WHT), e-tax coupon, e-Stamp เป็นต้น New
- ประยุกต์ใช้โปรแกรม Robotic Process Automation (RPA) ในกระบวนการทำงานทางด้านภาษีอาทิเช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) ภาษีสรรพสามิต (Excise Tax)
การกำกับดูแลทางด้านภาษี
กลยุทธ์และนโยบายด้านภาษีของบริษัทฯ ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้แทนคณะกรรมการบริษัท อีกทั้งบริษัทฯ ได้จัดตั้งหน่วยงานกลยุทธ์และวางแผนภาษี (Tax Strategy and Planning Division) และหน่วยงานบริหารภาษี (Tax Management Division) เพื่อรับผิดชอบในการดำเนินการ วางแผนและพัฒนางานทางด้านภาษี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าได้กลุ่มบริษัทฯ ได้ปฏิบัติและการจัดการงานด้านภาษีอย่างครบถ้วนถูกต้อง
บริษัทฯ เสริมสร้างการกำกับดูแลทางด้านภาษีโดยการสื่อความนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานทางด้านภาษี ตลอดจนตรวจสอบการปฏิบัติงานทางด้านภาษีของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้าในต่างประเทศ ผ่าน Tax Compliance Checklist ตามกฎหมายภาษีของแต่ละประเทศ เป็นประจำทุกปี ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางปฏิบัติของบริษัทฯ (GC Way of Conduct) เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานทางด้านภาษีของบริษัทดังกล่าวสอดคล้องและมีมาตรฐานเดียวกันกับบริษัทฯ ตลอดจนมีความโปร่งใส มีระบบธรรมาภิบาลที่ดี ที่ทำให้การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังปฏิบัติตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกำหนดราคาโอนระหว่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน (Transfer Pricing) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 โดยบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนทั้งในและต่างประเทศได้จัดทำเอกสารการกำหนดราคาโอน (Local File) อีกทั้งบริษัทฯ ยังสนับสนุน ปตท. ในการจัดทำเอกสารการกำหนดราคาโอนของกลุ่มบริษัท ปตท. อันได้แก่ Master File และการรายงานข้อมูลรายประเทศ (Country-by-Country Report - CbCR) ตลอดจนให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างต่อเนื่องในเรื่องของ Transfer Pricing เพื่อให้มั่นใจได้ว่านโยบายการกำหนดราคาโอนภายในกลุ่มบริษัทฯ มีความสอดคล้อง และเหมาะสมตามหลักการ Arm's Length
การบริหารความเสี่ยงทางด้านภาษี
กลุ่มบริษัทฯ ประยุกต์ใช้แนวทางการบริหารความเสี่ยงทางด้านภาษีภายใต้ Tax Control Framework ซึ่งสอดคล้องตามหลักมาตรฐานสากล COSO โดยกำหนดให้มีการประเมินความเสี่ยงทางด้านภาษี รวมถึงการติดตามและบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี อีกทั้งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับ Transfer Pricing Risk จึงร่วมกันกำหนดกระบวนการและแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อจัดการและติดตามในเรื่องนี้ในระหว่างกลุ่มบริษัทฯ
บริษัทฯ จัดทำแผนระยะยาวในการตรวจสอบการปฏิบัติงานทางด้านภาษี (Tax Health Check) สำหรับกลุ่มบริษัทฯ เป็นประจำทุกๆ 5 ปี โดยว่าจ้างที่ปรึกษาทางด้านภาษีจากภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของการดำเนินการทางด้านภาษี พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพื่อให้การปฏิบัติงานด้านภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถในงานทางด้านภาษีอย่างต่อเนื่อง จึงจัดทำแผนการฝึกอบรมทางด้านภาษีให้กับพนักงานบัญชีและการเงิน ซึ่งรวมถึงพนักงานที่อยู่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบทางด้านกลยุทธ์และการวางแผนภาษี และหน่วยงานที่ปฏิบัติงานทางด้านภาษี โดยแบ่งโปรแกรมการฝึกอบรมออกเป็นสามระดับ คือ 1) ระดับพื้นฐาน 2) ระดับกลาง และ 3) ระดับสูง เพื่อเป็นการรองรับกับหลักสูตรภาษีที่หลากหลายและเหมาะสม อีกทั้งยังได้จัดทำแหล่งเก็บข้อมูลความรู้ทางภาษี เช่น เอกสารตำราเรียนในหลักสูตรทางภาษี เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงและนำเอาความรู้เกี่ยวกับงานทางด้านภาษีไปใช้เป็นประโยชน์ต่อไป
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทฯ ตระหนักถึงความเสี่ยงต่อชื่อเสียงขององค์กรทางด้านภาษี โดยมุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการลงทุนในประเทศที่ปลอดภาษี (Tax Haven) ภายใต้มาตรการ BEPS Action 5: Harmful Tax Practices อีกทั้งบริษัทฯ มีแนวทางในการพิจารณาสำหรับการลงทุนในต่างประเทศที่ตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าว
นอกจากนี้ เนื่องด้วยกลุ่มประเทศ G20 ร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้กำหนดมาตรการ Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) เช่น Transfer Pricing, Substance specifications และ BEPS 2.0 บริษัทฯ จึงได้ให้ความสำคัญ และติดตามความเสี่ยงด้านภาษีที่เกี่ยวข้องกับโครงการ BEPS ดังกล่าว โดยดำเนินการตรวจสอบและกำหนดหลักการและแนวทางการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับภาษีอากร เพื่อลดความเสี่ยงทางด้านภาษี
การปฏิบัติงานทางด้านภาษี
บริษัทฯ มีเป้าหมายในการดำเนินงานทางด้านภาษี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าได้ปฏิบัติงานทางภาษีถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านภาษีอากร โดยมีการจัดทำขั้นตอนการดำเนินงานด้านภาษี (Tax Procedures) และริเริ่มการจัดทำ Tax Alert เพื่อสื่อความกฎหมายภาษีที่ออกใหม่ รวมถึงการตีความของข้อกฎหมายต่างๆ ไปยังกลุ่มบริษัทฯ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการทำงาน และมั่นใจได้ว่าได้ปฏิบัติงานทางด้านภาษีนั้นอย่างถูกต้อง
เพื่อควบคุมกระบวนการทำงานทางด้านภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ ได้ประยุกต์ใช้ Control Self-Assessment (CSA) ที่สอดคล้องกับนโยบายการควบคุมภายใน เพื่อระบุความเสี่ยงทางภาษี และหลักการในการควบคุม รวมถึงการประเมินประสิทธิภาพของการควบคุมที่มีอยู่ และการตรวจทานข้อบกพร่องในการควบคุมนั้น หรือแนวทางปฏิบัติในการบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังได้มีการสื่อสารและปรับใช้ CSA กับบริษัทย่อยในประเทศและกิจการร่วมค้าอีกด้วย
บริษัทฯ นำเอาเทคโนโลยีทางการเงินที่มีอยู่มาใช้เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินการทางด้านภาษี โดยมีการพัฒนาระบบจัดการภาษีอัตโนมัติผ่านเว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งประกอบด้วยระบบ Tax Compliance Monitoring การอัพเดทข้อกฎหมายทางภาษีที่เกี่ยวข้อง Lesson Learn จากการตรวจสอบภาษี การแบ่งปันความรู้ด้านภาษี และการให้คำปรึกษาด้านภาษี อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้พัฒนาระบบการนำส่งข้อมูลภาษีผ่าน e-Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความถูกต้องความแม่นยำของข้อมูลมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลภาษีจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแบบอัตโนมัติ เช่น การยื่นแบบนำส่งภาษี (e-Filing) ระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) การนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบออนไลน์ (e-Withholding Tax) และระบบอากรแสตมป์ออนไลน์ (e-Stamp)
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังใช้โปรแกรม Robotic Process Automation (RPA) กับกระบวนการทำงานทางการเงินและบัญชี ที่มีการทำงานแบบ Rule-Based Processes ผ่าน Intelligent Automation โดยมีแผนงานรวมถึงขั้นตอนการทำธุรกรรมภาษีอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินงานด้านภาษี อาทิเช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax) ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) และภาษีสรรพสามิต (Excise Tax) เป็นต้น
การกำกับดูแลความเสี่ยงด้านภาษี
โครงสร้างการบริหารความเสี่ยงด้านภาษีของบริษัทฯ ครอบคลุม 3 ระดับ คือ ระดับองค์กร ระดับสายงาน/หน่วยธุรกิจ และระดับปฏิบัติการ เพื่อก่อให้เกิดความมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถระบุความเสี่ยงที่สำคัญได้ และสามารถจัดหาวิธีการบรรเทาความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพยังสามารถนำมาประเมินได้ทั่วทั้งองค์กร
For more detail on Risk and Crisis Management Structure, please see Risk Governance
การบริหารความเสี่ยงทางภาษีและกรอบการควบคุมทางด้านภาษี
ภายใต้กลยุทธ์ด้านภาษี บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความพร้อมรับผิดในประเด็นเกี่ยวกับภาษีทั้งหมด เพื่อสร้างความไว้วางใจอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นและชุมชนที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ ดังนั้น บริษัทฯ จึงวางระบบบริหารความเสี่ยงภาษีและกรอบการควบคุมด้านภาษี ซึ่งจะนำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการให้บรรลุผลตามกลยุทธ์ด้านภาษีที่กำหนดไว้
การบริหารความเสี่ยงทางภาษีมุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับภาษีสำหรับธุรกิจการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศของบริษัทฯ โดยประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีที่เป็นปัจจุบันพร้อมด้วยส่วนปรับปรุงแก้ไขที่เกิดขึ้น การพัฒนาระบบควบคุมให้มีคุณภาพคลอบคลุมมาตรฐานการรายงานทางการเงินเรื่องภาษี การบริหารระบบตรวจสอบภาษีระดับโลก การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับภาษีที่เกิดขึ้นในทุกประเทศ การเข้าถึงความรู้ที่เหมาะสมในแต่ละประเทศ และการรายงาน การบัญชีภาษีอากรทั่วโลกตามแยกเป็นแต่ละประเทศอย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังกำหนดกรอบการควบคุมด้านภาษีซึ่งจะนำไปใช้บริหารความเสี่ยงด้านภาษีให้บรรลุผลตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ กรอบการควบคุมด้านภาษี คือ กรอบกระบวนการดำเนินงาน บทบาท หน้าที่ นโยบายการรายงานและบรรเทาความเสี่ยงด้านภาษีสำหรับการทำธุรกรรมของบริษัทฯ พร้อมด้วยผลกระทบทางภาษีที่เกิดขึ้นได้จากธุรกรรมนั้นๆ กล่าวคือ บริษัทฯ ต้องการ "การควบคุม" ปัญหาสำคัญๆ เกี่ยวกับภาษีทั้งหมด โดยสามารถตรวจสอบ จัดเก็บข้อมูล และรายงานความเสี่ยงสำคัญในด้านภาษีที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสมและทันเวลา และดูแลจัดการกระบวนการทางภาษีทั้งหมดให้อยู่ภายใต้กรอบการควบคุมภาษีที่กำหนดไว้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถระบุ บรรเทา ควบคุม และรายงานความเสี่ยงด้านภาษีภายในบริษัทฯ หรือให้แก่หน่วยงานภายนอกในกรณีที่จำเป็น
ขอบเขตการควบคุมภาษีจัดทำขึ้นตามแนวทางของ COSO (The Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission) ซึ่งได้กำหนดกรอบการความควบคุมภายในแบบครบวงจร (COSO Framework) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุด สำหรับโมเดล COSO ที่จัดทำขึ้นตามกรอบการทำงานของบริษัทฯ ประกอบด้วย 3 มิติดังนี้:
มิติที่ 1: กระบวนการควบคุมภายในสำหรับความเสี่ยงด้านภาษี
บริษัทฯ ได้กำหนดกระบวนการควบคุมภายในสำหรับความเสี่ยงด้านภาษี ดังนี้ :
- การดำเนินธุรกิจ - กำหนดรูปแบบการประกอบธุรกิจ โดยประเมินประเภทและขนาดของกิจกรรมทางธุรกิจ แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดการบริหารความเสี่ยงด้านภาษีล่วงหน้า (อาทิ ธุรกิจการผลิต การขายและการตลาด การวิจัยและพัฒนา และการลงทุนโดยการถือหุ้น) ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านภาษีที่แตกต่างกัน
- สภาพแวดล้อมทั่วไปทางด้านภาษี - ระบุสภาพแวดล้อมทั่วไปเกี่ยวกับภาษีสำหรับทุกประเทศและพื้นที่ที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทฯ ตระหนักดีว่า การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับภาษีอากร รวมถึงคุณลักษณะของภาษีในแต่ละประเทศหรือพื้นที่จะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทางด้านภาษี
- ข้อกำหนดเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านภาษี - ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านภาษีของทุกประเทศที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งระบุความเสี่ยงทางภาษีอากร โดยพิจารณาจากข้อกำหนดเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านภาษีอากรในแต่ละประเทศ ซึ่งได้แก่ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี การจ่ายภาษีที่กำหนดทุกประเภท และมาตรฐานการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องด้านอื่นๆ อาทิ การยื่นเอกสารการกำหนดราคาโอนของบริษัทที่มีธุรกรรมกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
- กระบวนการดำเนินการทางภาษี - กำหนดกระบวนการดำเนินการทางภาษีที่สอดคล้องและตรงตามกฎข้อบังคับด้านภาษีทั้งหมด กำหนดบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบทางด้านภาษี รวมทั้งระบุขั้นตอนการทำงานในหน่วยงานสำหรับการดำเนินการด้านภาษีแต่ละประเภทไว้อย่างชัดเจน
- การกำหนดความเสี่ยงด้านภาษี - ระบุความเสี่ยงด้านภาษีสำหรับภาษีสำคัญ ๆ และในทุกประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนที่ (1) - (4) ของกระบวนการควบคุมภายในสำหรับใช้กับความเสี่ยงทางภาษีที่กล่าวถึงข้างต้น สำหรับความเสี่ยงด้านภาษีที่สำคัญอื่น ๆ จะมีการระบุถึงขนาดของความเสี่ยงและผลกระทบที่มีต่องบการเงิน รวมถึงแนวโน้มในการเกิดความเสี่ยง พร้อมทั้งมีการกำหนดวิธีบริหารความเสี่ยงด้านภาษีทั้ง 2 ประเภทด้วย
- การลดความเสี่ยง - กระบวนการลดความเสี่ยงจัดทำขึ้นเพื่อใช้บริหารความเสี่ยงด้านภาษีที่สำคัญ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความเสี่ยงด้านภาษีที่อาจมีขึ้นในอนาคตให้อยู่ในระดับที่สามารถรับได้ การลดความเสี่ยงประกอบด้วย:
- ยอมรับความเสี่ยง - ยอมรับว่ามีความเสี่ยงแบบเฉพาะเจาะจงเกิดขึ้น
- ติดตามความเสี่ยง - ติดตามและประเมินการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านกระบวนการควบคุมและการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับภาษีอากรที่ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านภาษี
- ควบคุมความเสี่ยง - ดำเนินงานตามกระบวนการดำเนินการทางภาษีเพื่อลดผลกระทบหรือความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงดังกล่าว
- หลีกเลี่ยงความเสี่ยง - ปรับกระบวนการดำเนินการหรือบทบาททางภาษี เพื่อขจัดหรือลดความเสี่ยง
- โอนย้ายความเสี่ยง - มอบหมายความพร้อมรับผิด หน้าที่ความรับผิดชอบ และอำนาจในการดำเนินการให้ผู้มีส่วนได้เสียที่พร้อมรับความเสี่ยง หรือทำประกันความเสี่ยงกับกลุ่มหรือบริษัทรับประกัน
- กลไกควบคุม - กลไกควบคุมคือระบบควบคุมภายในที่บริษัทฯ จัดทำขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้ การควบคุมจะมีการดำเนินการในส่วนงานทุกระดับทั่วทั้งองค์กร ซึ่งจะมีการดำเนินงานเป็นระยะและขั้นตอนต่าง ๆ ภายในกระบวนการดำเนินธุรกิจและได้รับการสนับสนุนด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมนำมาใช้งาน
การควบคุมประกอบด้วยการออกแบบ ดำเนินการให้เกิดผล และจัดทำระบบควบคุมสำคัญต่าง ๆ เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อยู่ในกระบวนการทำงาน ระบบควบคุมหลัก ได้แก่ การอนุญาตและการอนุมัติ การตรวจสอบความถูกต้อง การปรับแก้ไข การพิจารณาผลประกอบการของธุรกิจ และการแบ่งแยกหน้าที่ โดยระบบควบคุมทั้งหมดนี้จะมีการประกาศและเผยแพร่ทั่วทั้งองค์กร
บริษัทฯ ติดตามและประเมินกลไกการควบคุมภายในเป็นประจำ โดยมีการประเมินประสิทธิผลของระบบควบคุมภายในและแก้ไขปัญหาการควบคุมที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
มิติที่ 2: กำหนดความเสี่ยงด้านภาษี
ความเสี่ยงด้านภาษีสามารถแบ่งออกเป็น 2 มิติ ซึ่งทุกองค์กรต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลากหลายรูปแบบ ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในที่ต้องมีการติดตามและประเมินตลอดเวลา ความเสี่ยงด้านภาษีที่อาจมีขึ้นสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ :
- ความเสี่ยงจากธุรกรรมทางธุรกิจ คือ ความเสี่ยงและการเปิดรับความเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกรรมที่บริษัทฯ ได้ทำขึ้น อาทิ การซื้อกิจการ การขายหุ้นกิจการหรือสินทรัพย์ การผนวกรวมกิจการ ธุรกรรมทางการเงิน ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่มีภาษีเป็นแรงขับเคลื่อน การปรับโครงสร้างภายในองค์กร และการแต่งตั้งพนักงานไปประจำในต่างประเทศ
- ความเสี่ยงจากการดำเนินงาน คือ ความเสี่ยงในการใช้กฎหมายและข้อบังคับภาษีอากร และการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจตามปกติขององค์กรธุรกิจ อาทิ การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ รูปแบบการปฏิบัติงานใหม่ และการดำเนินงานในทำเลใหม่
- ความเสี่ยงในการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านภาษี ครอบคลุมถึงการวางแผน การดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ และการพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการคืนภาษี รวมถึงความเสี่ยงในกระบวนการดังกล่าว และความสอดคล้องตรงตามข้อกำหนดของหน่วยกำกับดูแลภาษีอากร ทั้งนี้ เพื่อให้การยื่นแบบขอคืนภาษีและแสดงรายการภาษีมีความถูกต้องและทันกาลตรงตามกำหนดเวลา
- ความเสี่ยงทางการเงินและการบัญชี เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี และการเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับทางกฎหมายและระบบการบัญชีของรายงานทางการทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS: International Financial Reporting Standard) มาตรฐานการบัญชีที่ยอมรับโดยทั่ว ๆ ไป (GAAP: Generally Accepted Accounting Principles)
- ความเสี่ยงด้านการบริหาร/ทรัพยากรบุคคล คือ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนบุคลากรที่ดูแลด้านภาษีโดยไม่มีการแต่งตั้งบุคลากรคนใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งแทนอย่างเหมาะสม และความเสี่ยงจากกลยุทธ์การว่าจ้างบุคลากรใหม่ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า การจัดทำเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลภาษีและกระบวนการดำเนินงานของส่วนงานภาษีมีความถูกต้องและเหมาะสม
- ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง คือ ผลกระทบที่อาจเกิดกับชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทฯ
มิติที่ 3: ประเภทของภาษีที่ระบุไว้
ภาษีสำคัญที่ระบุไว้ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีสรรพสามิต และภาษีที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่บังคับใช้ในพื้นที่ดำเนินการของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม รายละเอียดสำคัญของภาษีแต่ละประเภทมีดังนี้
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
- สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคล - ข้อกำหนดการใช้สิทธิประโยชน์เหล่านี้จำเป็นต้องมีบันทึกทางบัญชีที่เข้มงวด และมีการติดตามผลของการดำเนินการทางธุรกิจอย่างเหมาะสม
- กฎระเบียบสำคัญ ๆ - ความเสี่ยง คือ การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศขององค์กรธุรกิจ อาจก่อให้เกิดผลทางภาษีที่ไม่พึงประสงค์ อาทิ ความเสี่ยงจากการได้รับบทลงโทษ
- การติดตามการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีอย่างต่อเนื่อง
- ระบบภาษีมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น มีหลายประเทศเปิดใช้แบบแสดงรายการคืนภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องมั่นใจว่า บริษัทฯ มีศักยภาพพร้อมดำเนินการตามข้อกำหนดของระบบภาษีดังกล่าวทั้งหมด
ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีสินค้าและบริการ
- ความเสี่ยงด้านระบบห่วงโซ่อุปทาน - ผู้ประกอบการควรมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการห่วงโซ่อุปทาน อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเปลี่ยนแปลงระบบห่วงโซ่อุปทาน อาจทำให้เกิดประเด็นปัญหาเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
- ความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ - ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องและเหมาะสมเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้มั่นใจว่าการจดทะเบียนและอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศที่ผู้ประกอบการดำเนินกิจการหรือเตรียมประกอบกิจการมีความจำเป็นหรือไม่
- ความเสี่ยงทางด้านการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วยโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดโดยมนุษย์ การกระทบยอดของใบแจ้งหนี้ที่มีเอกสารสนับสนุน การจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบภาษี
- ความเสี่ยงภายนอก อาทิ การจัดทำระเบียบข้อบังคับทางกฎหมายใหม่ ๆ การตรวจสอบภาษีที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาภาษีซ้อน (Double Tax Treaties) ดังนั้นการพิจารณากำหนดอัตราภาษีซ้อนที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
- การตีความประเภทค่าใช้จ่ายในแต่ละประเทศมีความหลากหลาย ทำให้เกิดภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่แตกต่างกัน อาทิ ค่าบริหารจัดการ หรือค่าวิชาชีพ (Management/Professional fees) ค่าสิทธิ (Royalties)
- ในบางประเทศ มีการเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในส่วนของผลกำไร หรือรายได้จากสินทรัพย์ที่บริษัทต่างชาติเป็นเจ้าของ
- มีการใช้เครดิตภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่ายในการขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างเหมาะสม
- ในบางประเทศ กำหนดให้มีการจัดทำรายงานค่าใช้จ่ายรวมถึงรายงานประจำปีภายในระยะเวลาที่กำหนด
ภาษีสรรพสามิต
- มีการบังคับใช้และปฏิบัติตามกฎหมายภาษีสรรพสามิตอย่างเหมาะสม
- จำแนกอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าที่ต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต ในระหว่างการจัดเก็บข้อมูลพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
- นำส่งภาษีสรรพสามิตอย่างถูกต้อง สำหรับรายการที่มีการใช้พิกัดอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับภาษีสรรพสามิต เช่น ธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์
ทั้งนี้ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องในงานด้านภาษีทั้งหมดในสังกัดของบริษัทฯ จะมีหน้าที่ให้ข้อมูลตามกรอบการควบคุมภาษี และติดตามประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การดำเนินงานภายใต้กรอบการควบคุมภาษีดังกล่าวเป็นไปอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งรายงานการดำเนินการภายใต้กรอบการควบคุมภาษีให้คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ รับทราบเป็นประจำ