นวัตกรรมแบบเปิด
บริษัทฯ วิจัยและพัฒนาผ่านทางนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) โดยสร้างเครือข่ายกับองค์กรภายนอกทั้งภายในและต่างประเทศ อาทิ สถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา และภาคธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มช่องทางและโอกาสในการเข้าถึงงานวิจัยของมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมใน Research Consortium
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) กับบริษัทสตาร์ทอัพและกองทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อค้นคว้าและพัฒนากระบวนการผลิตและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับบริษัทฯ โดยได้เพิ่มการลงทุนไปกว่า 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มุ่งเน้นการพัฒนาใน 4 กลุ่มเทคโนโลยี ดังนี้ 1) วัสดุขั้นสูง (Advanced Material) 2) Renewable / Circularity 3) Net Zero และ 4) Industrial Digital ซึ่งล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศในปัจจุบันและอนาคต ตัวอย่างของนวัตกรรมแบบเปิด ดังโครงการต่อไปนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม: การลงทุน และข้อมูล จีซี เวนเจอร์ส สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์: https://www.pttgcgroup.com/th/products-and-innovations/gc-ventures
1) วัสดุขั้นสูง (Advanced Material)
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-01.jpg)
AREVO
AREVO มีความโดดเด่นในการพัฒนาวัสดุขั้นสูง (Advanced Materials) มาใช้กับเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ (3D Printing) อาทิ วัสดุคอมโพสิท (Composite Materials) ที่มีคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา ซึ่งบริษัทฯ สามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-06.jpg)
Inkbit
Inkbit พัฒนาเทคโนโลยีด้านการพิมพ์สามมิติในเทคนิคที่เรียกว่า “Vision Control Jetting” โดยใช้พอลิเมอร์เหลวที่กลายเป็นของแข็งเมื่อสัมผัสกับแสงที่มีประสิทธิภาพสูง (High Performance Photopolymers) เพื่อเสริมศักยภาพ การผลิตและการขึ้นรูปแบบสามมิติ
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-04.jpg)
actnano
actnano พัฒนาความเชี่ยวชาญด้านวัสดุขั้นสูง (Advanced Materials) และยังเป็นการต่อยอดจากการลงทุนของบริษัทฯ ที่ลงทุนกองทุนเทคโนโลยี Emerald Industrial Innovation Fund (EIIF) ซึ่งเป็นกองทุนระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-08.jpg)
Boston Materials
บริษัทเจ้าของเทคโนโลยีวัสดุคอมโพสิตสมรรถนะสูง เสริมแรงเส้นใยแบบ Z-Axis ซึ่งมีผู้ร่วมลงทุน เช่น GS, Good Growth Capital และอื่นๆ
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-09.jpg)
Interface Polymers
ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Compatibilization สำหรับเม็ดพลาสติกที่แตกต่างชนิดกันเพื่อผลักกันเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy). ผู้ร่วมลงทุนได้แก่ EVONIK, Ingevity และ PORUS
2) ทรัพยากรหมุนเวียนและระบบหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร (Renewable & Circularity)
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-10.jpg)
NirvaMed
เทคโนโลยีการทำความเย็นหัวใจ เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจโต โดย บริษัทฯ ลงทุนใน NirvaMed ร่วมกับ โรงพยาบาลศิริราช, BDMS, Smart Corp เป็นต้น
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-11.jpg)
Tidal Vision
โซลูชั่นด้านการผลิตไคโตซานต้นทุนต่ำและสะอาด กับผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนประกอบของโพลิเมอร์ที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ ซึ่งผู้ร่วมลงทุน ประกอบด้วย JW Asset Management, Pangea, SOSV เป็นต้น
3) Net Zero
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-03.jpg)
ESS inc.
ESS Inc. พัฒนาเทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage System) แบบแบตเตอรีเหลว (Flow Battery) ที่มีความทนทานและมีประสิทธิภาพสูง
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-05.jpg)
Phase Change Energy Solutions (PCES)
PCES มุ่งเน้นการพัฒนาวัสดุทางชีวภาพ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในห่วงโซ่อุปทานของการขนส่ง Cold Chain ของผลิตภัณฑ์ชีวเภสัชกรรม
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-12.jpg)
Econic
ผู้พัฒนาเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์จากคาร์บอนเพื่อนำ CO2 ที่ดักจับได้มาใช้ผลิตโพลิเมอร์อย่างยั่งยืน บริษัทฯ ลงทุนใน Econic ร่วมกับนักลงทุนด้าน Climate tech ระดับโลก เช่น Capricorn Partners และ OGCI (Oil & Gas Climate Initiative) เป็นต้น
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-13.jpg)
Compact Membrane Systems
ผู้พัฒนา Advanced CO2 Membrane สำหรับโครงการ CCUS (Carbon Capture, Utilization & Storage) ผู้ร่วมลงทุนได้แก่ Pangaea, Solvay, Saudi Aramco และ Mitsubishi เป็นต้น
1) วัสดุขั้นสูง (Advanced Material)
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/fund-01.jpg)
PANGAEA
Pangaea Venture Fund IV และ Impact Fund เป็นกองทุนด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุขั้นสูง (Advanced Materials) ที่มีการเติบโตและมุ่งเน้นในธุรกิจพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ สุขภาพและความยั่งยืน ในประเทศแคนาดา
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-07.jpg)
GRC SinoGreen
กองทุน GRC SinoGreen เป็นกองทุนในประเทศจีนที่ลงทุนในธุรกิจการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน ดิจิทัล วัสดุขั้นสูง และสุขภาพ
2) ทรัพยากรหมุนเวียนและระบบหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร (Renewable & Circularity)
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/starup-14.jpg)
ECBF
กองทุนร่วมลงทุนในประเทศลักซัมเบิร์กที่ลงทุนในธุรกิจกลุ่มเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียน (Circular Bioeconomy)
3) Net Zero
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/fund-03.jpg)
Emerald
Emerald Industrial Innovation Fund เป็นกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสะอาดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตามทิศทางความต้องการของตลาดและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/fund-04.jpg)
Infinity Recycling
Infinity Recycling Circular Plastics Fund I เป็นกองทุนของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) ที่ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีเศรษฐกิจหมุนเวียนและรีไซเคิลพลาสติกขั้นสูง เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนของกลุ่มบริษัทและการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติก)
4) เทคโนโลยีดิจิทัลทางอุตสาหกรรม (Industrial Digital)
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/fund-02.jpg)
BUILDERS
Builders VC Fund I เป็นกองทุนด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลในประเทศสหรัฐอเมริกาที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/tab3-image1.jpg)
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/tab3-image2.jpg)
บริษัทฯ กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (KMUTNB) ได้มีการร่วมมือกันในการพัฒนาหุ่นยนต์และระบบควบคุมสำหรับตรวจสอบถังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ ซึ่งมีความแม่นยำสูงและมีอัตราการผิดพลาดเพียงร้อยละ 0.3 นอกจากนี้การใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวในการตรวจสอบสามารถลดความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุของแรงงานในการสำรวจถังได้อีกด้วย ทั้งนี้จากการปฏิบัติงานในโรงงานผลิตอะโรเมติกซ์ โครงการนี้สามารถลดค่าใช้จ่าย (Cost Reduction) ในการตรวจสอบถึง 3 ล้านบาทต่อปี และได้รับการจดอนุสิทธิบัตรเครื่องตรวจวัดพื้นผิวแบบเคลื่อนที่ได้ด้วยเช่นกัน
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/tab4-image1.jpg)
บริษัทฯ ได้มีการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (License Out) แก่บริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพในประเทศสหรัฐอเมริกา ในเทคโนโลยีการสังเคราะห์ Dicyclopentadiene (DCPD) Modified Ester Oligomers ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสารเคลือบผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโลหะและคอนกรีต เนื่องจาก เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารเคลือบให้สามารถทนทานต่อการกัดกร่อน มีคุณสมบัติทางกล และคุณสมบัติการแห้ง รวมถึงการให้อุณหภูมิและแสงอัลตราไวโอเลตที่ดี สามารถสร้างรายได้ประเมินให้แก่บริษัทฯมูลค่ากว่า 84 ล้านบาท
![](/storage/economy/innovation-management/open-innovation/tab6-image4.jpg)
ศูนย์ความร่วมมือและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Customer Solution Center: CSC) เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพของบริษัทฯ ในการนำความต้องการโดยตรงของลูกค้า แรงจูงใจในการซื้อของคู่ค้า/คู่ธุรกิจ บริษัทสตาร์ทอัพและรัฐบาล มาพัฒนานวัตกรรมของบริษัทฯ (Access to Technologies) ให้เป็นผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ CSC ช่วยให้บริษัทฯ ขยายโอกาสในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า รวมถึงหน่วยงานต่างๆ อาทิ สถาบันพลาสติก (Plastic Institute of Thailand: PITH) สำหรับตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จจากศูนย์ CSC สามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้ (Revenue generation) จากการจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า "Upcycling by GC" ซึ่งบริษัทฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณค่า ทันสมัย และเกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้ทรัพยากร