บริษัทฯ ประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนภายในบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อระบุมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยการประเมินความเสี่ยงนี้ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ ในระดับประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรม และระดับพื้นที่ปฏิบัติการที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ และบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯ มีสิทธิในการควบคุมการจัดการ รวมถึงคู่ค้าที่สำคัญในกลุ่มจัดหาวัตถุดิบ สินค้า และการบริการของบริษัทฯ เป็นประจำทุก 3 ปี

การประเมินนี้ออกแบบมาเพื่อจัดทำแนวทางการจัดการในพื้นที่ปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการระบุประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง การประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นกับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้พิการ สตรี ชนกลุ่มน้อย แรงงานข้ามชาติ แรงงานที่ว่าจ้างผ่านบุคคลที่สาม ชนพื้นเมือง ชุมชนท้องถิ่น เพศทางเลือก ผู้สูงอายุ และสตรีตั้งครรภ์ และการประเมินโอกาสที่อาจเกิดผลกระทบในระดับประเทศ ระดับปฏิบัติงาน และระดับบุคคล โดยเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนพิจารณาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ โอกาสที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบ ครอบคลุมสิทธิมนุษยชน ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ สิทธิแรงงาน สิทธิชุมชน ห่วงโซ่อุปทาน ความมั่นคงปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และสิทธิผู้บริโภค

จากผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการควบคุมและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และประเมินความเสี่ยงที่เหลืออยู่ หลังจากจัดทำแนวทางการป้องกันและแก้ไขด้านสิทธิมนุษยชนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจว่าการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการควบคุมผลกระทบตลอดห่วงโซ่คุณค่า

แผนผังประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ (GC Human Rights Risk Assessment Matrix)

บริษัทฯ ประเมินความเสี่ยงทางด้านสิทธิมนุษยชน โดยพิจารณาเกณฑ์ขนาดความรุนแรงของผลกระทบและเกณฑ์โอกาสในการเกิดการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยความเสี่ยงจะถูกจัดระดับออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ วิกฤติ (Critical) มีนัยสำคัญ (Significant) ต่ำ (Low) และต่ำมาก (Very Low)

ระดับความเสี่ยง

ปัญหาสิทธิมนุษยชน
สิทธิพนักงาน
  • สภาพการทำงาน
  • อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • การเลือกปฏิบัติและการคุกคาม (รวมถึงความเท่าเทียมในการจ่ายค่าตอบแทน)
  • การจ้างแรงงานผิดกฎหมาย
  • เสรีภาพในการสมาคมและสิทธิในการเจรจาต่อรอง
  • ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
สิทธิคู่ค้า / ผู้รับเหมา
  • สภาพการทำงาน
  • อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • การเลือกปฏิบัติและการคุกคาม
  • การเลือกปฏิบัติต่อผู้ขาย
  • ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
สิทธิชุมชน
  • อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • มาตรฐานการดำรงชีวิต
  • การเวนคืนที่ดินและการอพยพย้ายถิ่นฐานโดยบังคับ
สิทธิผู้บริโภค
  • อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • การเลือกปฏิบัติและการคุกคาม
  • ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
สิทธิผู้ถือครองสิทธิ
  • ความมั่นคงปลอดภัย/เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

เกณฑ์การประเมินความเสี่ยง: ผลกระทบ

ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านขนาด ขอบข่าย และข้อจำกัดของความสามารถในการฟื้นฟูแก้ไขผลกระทบด้านลบที่เกิดขึ้นอย่างน้อยให้กลับไปมีสภาพดังเดิม

เกณฑ์ขนาดความรุนแรง

รุนแรงมาก (5)

ผลกระทบต่อสุขภาพ

ผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ ได้แก่ การเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บที่รุนแรงจนถึงขั้นทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตมากกว่า 1 ราย ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้

ผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ (เช่น ทรัพย์สิน ข้อมูลส่วนบุคคล และการจำกัดสิทธิ เป็นต้น)

ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงการจำกัดสิทธิของผู้ได้รับผลกระทบ (ได้แก่ การอพยพย้ายถิ่นฐานโดยบังคับ การสูญเสียงาน หรือได้รับผลกระทบต่อหน้าที่การงานจนถึงขั้นต้องอพยพ)

ขอบเขต (จำนวนบุคคลที่ได้รับหรืออาจได้รับผลกระทบ)

ผลกระทบต่อผู้มีสิทธิทุกคนในกลุ่ม (ได้แก่ คนในชุมชนทั้งหมด พนักงานทั้งหมด คู่ค้าทั้งหมด ลูกค้าทั้งหมด) (ร้อยละ 100)

ความสามารถในการเยียวยา (ความยากง่ายในการฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพก่อนเกิดเหตุ)

ไม่สามารถฟื้นฟูได้หรือจะใช้เวลาฟื้นฟูนานกว่า 3 ปี

ระดับของผลกระทบ

รุนแรง (4)

ผลกระทบต่อสุขภาพ

ผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพ: การเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บอย่างร้ายแรงที่ส่งผลให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิต

ผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ (เช่น ทรัพย์สิน ข้อมูลส่วนบุคคล และการจำกัดสิทธิ เป็นต้น)

ผลกระทบต่อการดำรงชีวิตจนถึงขั้นต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ(ได้แก่ สูญเสียโอกาสหรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตใดๆ ที่ก่อให้เกิดหนี้สินหรือจำกัดคุณภาพชีวิตตามปกติ)

ขอบเขต (จำนวนบุคคลที่ได้รับหรืออาจได้รับผลกระทบ)

ผลกระทบต่อผู้มีสิทธิส่วนใหญ่ในกลุ่มผู้มีสิทธิที่เฉพาะเจาะจง(ร้อยละ 50 - < ร้อยละ100)

ความสามารถในการเยียวยา (ความยากง่ายในการฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพก่อนเกิดเหตุ)

ใช้เวลาฟื้นฟูมากกว่า 1 ถึง 3 ปี

ระดับของผลกระทบ

ปานกลาง (3)

ผลกระทบต่อสุขภาพ

ผลกระทบในระดับปานกลางต่อสุขภาพและผลกระทบทางจิตใจในระยะยาว:การเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลพร้อมการฟื้นฟู (การบาดเจ็บที่ทำให้ต้องหยุดงาน)

ผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ (เช่น ทรัพย์สิน ข้อมูลส่วนบุคคล และการจำกัดสิทธิ เป็นต้น)

มีการปรับตัวในระยะยาวเล็กน้อย หรือส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตโดยเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากเดิมในระดับปานกลาง (ได้แก่ การสูญเสียโอกาสหรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน การเปลี่ยนอาชีพ หรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตใดๆ ที่จำกัดคุณภาพชีวิตตามปกติ)

ขอบเขต (จำนวนบุคคลที่ได้รับหรืออาจได้รับผลกระทบ)

ผลกระทบต่อบางส่วนแต่ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิในกลุ่มผู้มีสิทธิที่เฉพาะเจาะจง (ร้อยละ 25 - < ร้อยละ 50)

ความสามารถในการเยียวยา (ความยากง่ายในการฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพก่อนเกิดเหตุ)

ใช้เวลาฟื้นฟูมากกว่า 6 เดือนถึง 1 ปี

ระดับของผลกระทบ

เล็กน้อย (2)

ผลกระทบต่อสุขภาพ

ผลกระทบเล็กน้อยต่อสุขภาพและผลกระทบทางจิตใจในระยะสั้น:การเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาล หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนไปปฏิบัติหน้าที่อื่น (ไม่หยุดงาน)

ผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ (เช่น ทรัพย์สิน ข้อมูลส่วนบุคคล และการจำกัดสิทธิ เป็นต้น)

มีการปรับตัวในระยะสั้นเล็กน้อย หรือส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตโดยมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนของวิถีชีวิตจากเดิม (ได้แก่ การโยกอพยพย้ายถิ่นฐาน การเปลี่ยนอาชีพ หรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตใดๆ โดยไม่มีผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย สถานะทางเศรษฐกิจ หรือคุณภาพชีวิต)

ขอบเขต (จำนวนบุคคลที่ได้รับหรืออาจได้รับผลกระทบ)

ผลกระทบต่อบางส่วนของผู้มีสิทธิในกลุ่มผู้มีสิทธิที่เฉพาะเจาะจง (< ร้อยละ 25)

ความสามารถในการเยียวยา (ความยากง่ายในการฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพก่อนเกิดเหตุ)

ใช้เวลาฟื้นฟู 3 ถึง 6 เดือน

ระดับของผลกระทบ

ไม่มีนัยสำคัญ (1)

ผลกระทบต่อสุขภาพ

ผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจเล็กน้อยหรือไม่มีเลย:ไม่มีอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ หรือสามารถรักษาได้ด้วยการปฐมพยาบาล

ผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ (เช่น ทรัพย์สิน ข้อมูลส่วนบุคคล และการจำกัดสิทธิ เป็นต้น)

ผลกระทบต่อการดำรงชีวิตเล็กน้อยหรือไม่มีเลย (ไม่มีผลกระทบต่อการอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน การเปลี่ยนอาชีพ หรือวิถีชีวิต หรือมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตบางอย่างแต่ไม่ต้องปรับตัวหรือไม่ลดทอนคุณภาพชีวิต)

ขอบเขต (จำนวนบุคคลที่ได้รับหรืออาจได้รับผลกระทบ)

ไม่มีผลกระทบต่อผู้มีสิทธิที่เกี่ยวข้อง (ร้อยละ 0)

ความสามารถในการเยียวยา (ความยากง่ายในการฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพก่อนเกิดเหตุ)

สามารถฟื้นฟูได้ทันทีหรือใช้เวลาฟื้นฟูน้อยกว่า 3 เดือน

เกณฑ์การประเมินความเสี่ยง: โอกาสที่จะเกิดขึ้น

ระดับโอกาสที่จะเกิดขึ้น ลักษณะของโอกาสที่จะเกิดขึ้น
5 มีโอกาสสูงมาก (> ร้อยละ 50) เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในพื้นที่ปฏิบัติการมากกว่าหนึ่งครั้งต่อปี
4 มีโอกาสสูง (> ร้อยละ 25) เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในพื้นที่ปฏิบัติการหนึ่งครั้งต่อปี
3 มีโอกาสบางครั้ง (ร้อยละ 10-25) เหตุการณ์เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมที่เป็นประเภทเดียวกับพื้นที่ปฏิบัติการมากกว่าหนึ่งครั้งในสามปีที่ผ่านมา
2 มีโอกาสน้อย (ร้อยละ 5-10) เหตุการณ์เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมที่เป็นประเภทเดียวกับพื้นที่ปฏิบัติการหนึ่งครั้งในสามปีที่ผ่านมา
1 มีโอกาสน้อยมาก (< ร้อยละ 5) เหตุการณ์เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมที่เป็นประเภทเดียวกับพื้นที่ปฏิบัติการหนึ่งครั้ง หรือ ไม่เคยเกิดขึ้นระยะยะเวลามากกว่าสามปี

ผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน

พื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ
(รวมถึงบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯ มีสิทธิในการควบคุมการจัดการ)
คู่ค้าในกลุ่มจัดหาวัตถุดิบ
(Tier 1 Feedstock Suppliers)
คู่ค้าในกลุ่มจัดหาสินค้า และบริการอื่นๆ
(Tier 1 Non-Feedstock Suppliers)
ประเด็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
สิทธิแรงงาน สิทธิชุมชน สายโซ่อุปทาน ความมั่นคงปลอดภัย สิ่งแวดล้อม สิทธิผู้บริโภค
  • สภาพการจ้างงาน
  • สุขภาพและความปลอดภัย ของพนักงาน
  • เสรีภาพในการสมาคมและการเจรจาต่อรอง
  • การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน
  • การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
  • สุขภาพและความปลอดภัยในชุมชน
  • มาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
  • การโยกย้ายถิ่นฐาน
  • การจ้างแรงงานผิดกฎหมายจากการจัดหาวัตถุดิบ (Feedstock)
  • การเลือกปฏิบัติต่อคู่ค้าที่จัดหาวัตถุดิบ (Feedstock)
  • การจ้างแรงงานผิดกฎหมายจากการจัดหาสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Feedstock)
  • การเลือกปฏิบัติต่อคู่ค้าที่จัดหาสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Feedstock)
  • การจัดการความปลอดภัย
  • ผลกระทบเชิงลบทางสิ่งแวดล้อม
  • สุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า
  • การเลือกปฏิบัติต่อลูกค้า
  • การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ร้อยละของพื้นที่ปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนและมีแนวทางการควบคุม (Percentage of operational sites with human rights risk and controlling approach)

ร้อยละของพื้นที่ปฏิบัติการที่ได้รับการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ร้อยละของพื้นที่ปฏิบัติการที่พบว่ามีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ร้อยละของพื้นที่ปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่มีการป้องกัน บรรเทา และกระบวนการเยียวยาผลกระทบ
พื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ ทั้งหมด* (Own Operations) 100 (18 พื้นที่ปฏิบัติการ) 16.67 100*
คู่ค้าที่สำคัญและผู้รับเหมา** (Tier-1 Suppliers and Contractors) 100 (1,805 ราย) 0.33 100**
พื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทร่วมทุนทั้งหมด*** (Joint Ventures without management controls) 100 (9 พื้นที่ปฏิบัติการ) 0 0

หมายเหตุ: ข้อมูลผลการประเมินเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ปี 2024

* ร้อยละ 100 ของพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ ที่มีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน (หรือคิดเป็นจำนวน 18 พื้นที่) ได้กำหนดแนวทางการควบคุมความเสี่ยงทางด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

** ร้อยละ 100 ของคู่ค้าที่สำคัญและผู้รับเหมาทั้งหมดที่มีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน (หรือคิดเป็นร้อยละ 0.33 ของจำนวน 1,805 ราย) ได้กำหนดแนวทางการควบคุมความเสี่ยงทางด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

*** บริษัทฯ ไม่มีอำนาจในการควบคุมจัดการกับบริษัทร่วมทุนทั้งหมด

มาตรการบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน (Mitigation Measures)

การดำเนินงานของบริษัทฯ (Own Operations) และของบริษัทร่วมทุน

จากการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ (รวมพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทร่วมทุนทั้งหมด) บริษัทฯ ได้จัดทำแนวทางควบคุมและฟื้นฟูประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ดังนี้

ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

การดำเนินงานของคู่ค้าที่สำคัญ

บริษัทฯ ประเมินความเสี่ยงทางด้านสิทธิมนุษยชนของคู่ค้าและผู้รับเหมาที่ทำธุรกิจโดยตรงกับบริษัทฯ (Tier-1 Suppliers and Contractors) และกำหนดแนวทางควบคุมและฟื้นฟูประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน เช่น โครงการ Safety Network and Sharing โครงการตรวจสุขภาพ และเฝ้าระวังทางสาธารณสุข การบริหารจัดการการจัดจ้างจัดซื้ออย่างยั่งยืน จรรยาบรรณทางธุรกิจ และอื่นๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ ได้มี Vendor Management Procedure เพื่อบริหารจัดการคู่ค้า รวมถึง กำหนดมาตรการในการควบคุมและบรรเทาความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นจากคู่ค้าที่ระบุอยู่ในจรรยาบรรณทางธุรกิจของคู่ค้า โดยคู่ค้าต้องลงนามการรับรู้จรรยาบรรณทางธุรกิจของคู่ค้าและนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

Vendor Management Procedure

มาตรการบรรเทาผลกระทบ:

  • กำหนดแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน ครอบคลุมการเคารพสิทธิ ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ให้มีการบังคับใช้แรงงานหรือแรงงานเด็ก ปราศจากการเลือกปฏิบัติและการคุกคาม มีสภาพแวดล้อมการทำงานเหมาะสม และเคารพเสรีภาพในการรวมตัวและเจรจาร่วม
  • ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม จัดการของเสีย มลพิษทางอากาศและน้ำ อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในที่ทำงาน
  • รวบรวมและสื่อสารนโยบาย มาตรฐาน และหลักการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยให้คู่ค้าและผู้รับเหมารับทราบและปฏิบัติตาม
  • คัดเลือกและประเมินคู่ค้าอย่างเป็นระบบ พิจารณาความเสี่ยงและผลการดำเนินงาน พร้อมส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามหลัก ESG ภายใต้ Supplier Code of Conduct
  • ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมถึงคู่ค้าและผู้รับเหมา โดยเน้นการบริหารความเสี่ยง ป้องกันอุบัติเหตุ โรคจากการทำงาน ความเสียหายต่อทรัพย์สิน และจัดทำแผนรองรับปัญหาสิ่งแวดล้อม
  • กำกับกระบวนการบริหารคู่ค้าอย่างรัดกุม ด้วยเกณฑ์การลงทะเบียน การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากคู่ค้า