คุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน
บริษัทฯ มีเป้าหมายในการมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีความสุข และปราศจากอุบัติเหตุ จึงได้จัดให้มีสภาพแวดล้อมและพื้นที่การทำงานที่ปลอดภัยมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ และมีการประเมินความเสี่ยงด้านการยศาสตร์ของพนักงาน ตลอดจนจัดทำโครงการต่าง ๆ เพื่อยกระดับความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน รวมถึงมีความเป็นอยู่ที่ดีระหว่างการทำงานร่วมกับบริษัทฯ ตลอดจนหลังเกษียณอายุ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้นำหลักกฎหมายคุ้มครองแรงงานตามมาตรฐานแรงงานไทย (มรท. 8001-2553) และหลักสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากลเข้ามาเป็นแนวทางการดูแลพนักงาน โดยจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ หรือ คสส. เพื่อดูแลเรื่องสิทธิแรงงาน สวัสดิการ และสภาพการทำงานของพนักงาน ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของพนักงาน
ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เล็งเห็นถึงการดูแลรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 จึงกำหนดนโยบายและมาตรการควบคุมเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อโควิด 19 ครอบคลุมทั้งพนักงาน ผู้รับเหมา ตลอดจนทุกคนที่เข้ามายังพื้นที่ของบริษัทฯ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการดูแลรักษาสุขภาพต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในช่วงวิกฤติเช่นนี้ โดยมุ่งเน้นโครงการด้านการยศาสตร์ และโครงการบริหารจัดการความเครียดของพนักงาน

โครงการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน (Employee Health & Well-Being Program)
บริษัทฯ ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากมุ่งพัฒนาทักษะ และความสามารของพนักงานทุกระดับ บริษัทฯ ยังใส่ใจความเป็นอยู่และประสบกาณ์ที่ดีในการทำงาน สามารถปฏิบัติงาน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ได้อย่างรวดเร็ว และสอดคล้องการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างยั่งยืน
แนวทางการปฏิบัติงานจากที่บ้าน (Work From Home: WFH)
บริษัทฯ ปรับโครงสร้างและรูปแบบการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ได้แก่ การทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home (WFH) โดยบริษัทฯ สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานในระหว่างปฏิบัติงานที่บ้าน เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเทียบเท่ากับการปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน ด้วยการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยขยายระบบ Direct Access และ VPN ให้พนักงานสามารถเข้าระบบต่าง ๆ ของบริษัทจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน
นอกจากนี้ นโยบายการปฏิบัติงานที่บ้าน อยู่ในแผนบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบจากสถานการณ์ใด ๆ เมื่อพนักงานไม่สามารถเข้าปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ได้
แนวทางการปฏิบัติงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Working Operations)
บริษัทฯ มีนโยบายสนับสนุนให้เกิดชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น และอนุญาตให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานที่บ้านได้ สอดคล้องกับความต้องการของพนักงานกลุ่มต่างๆ และสถานการณืที่เปลี่ยนแปลงไป
สวัสดิการครอบครัว (Family Support)
บริษัทฯ มีนโยบายและสวัสดิการครอบคลุมความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัวพนักงาน ดังนี้
- บริษัทฯ จัดห้องให้นมบุตร 10 ห้อง ในพื้นที่ทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนพนักงานที่ตั้งครรภ์หรือเพิ่งมีบุตร
- บริษัทฯ ให้การประกันสุขภาพให้แก่พนักงานและครอบครัว ได้แก่ คู่สมรสและบุตร รวมไปถึงการฉีดวัคซีนสำหรับทารก และทันตกรรมสำหรับบุตรของพนักงาน และนอกเหนือจากด้านสุขภาพแล้ว
- บริษัทฯ สนับสนุนค่าเล่าเรียนสำหรับบุตรของพนักงานตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย (อายุไม่เกิน 22 ปี)
สิทธ์การลาคลอดและการลางานเพื่อไปดูแลครอบครัว (Paid Parental Leave)
- พนักงานหญิงมีสิทธิ์ลาคลอดได้ไม่เกิน 98 วัน และได้รับค่าจ้างในช่วงลาคลอดแต่ไม่เกิน 70 วัน ซึ่งเกินกว่ากฎหมายแรงงานของประเทศไทย หากพนักงานที่ตั้งครรภ์ได้รับใบรับรองแพทย์ชั้นหนึ่ง ที่แสดงว่าพนักงานไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ พนักงานมีสิทธิ์ขอให้นายจ้างเปลี่ยนงานชั่วคราวก่อนหรือหลังคลอด
- พนักงานชายมีสิทธิ์ลางานเพื่อไปดูแลครอบครัวในกรณีที่ภรรยาลาคลอดได้ไม่เกิน 3 วัน โดยได้รับค่าจ้าง ซึ่งเกินกว่ากฎหมายแรงงานของประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน และโครงการเพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดี (Well-Being) เพื่อส่งเสริมการทำงานของพนักงานอย่างมีความสุข โดยมุ่งเน้นด้านสุขภาพ จิตใจ และการบริหารการเงินที่ดี (Health, Mindfulness and Wealth) เช่น โครงการความช่วยเหลือด้านการแพทย์ โครงการ Employee Assistance Program (EAP) และโครงการรักษ์หัวใจ เป็นต้น

โครงการ Employee Assistance Program (EAP)
บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ EAP เพื่อให้คำปรึกษาแก่พนักงานที่มีปัญหาต่าง ๆ เช่น ความท้อใจ ความตึงเครียด ปัญหาในการทำงาน ปัญหาครอบครัว เป็นต้น โดยพนักงานจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางด้านการให้คำปรึกษาจากหน่วยงานภายนอกผ่านทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมง หรือการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าพบเป็นการส่วนตัว รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมประจำปีเพื่อให้พนักงานตระหนักรู้ถึงสภาวะจิตใจของตนเอง
โครงการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงโควิด 19
บริษัทฯ ดำเนินโครงการ Drive Thru COVID-19 (Real Time RT-PCR) เพื่อดูแลสุขภาพพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้รับเหมาที่บริษัทฯ จ้างโดยตรง โดยบริการตรวจหาความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสโควิด 19 ผ่านการตรวจแบบ DRIVE THRU ซึ่งเป็นวิธีที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว และลดความเสี่ยงให้การแพร่และรับเชื้อไวรัสได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนทั้งสิ้น 675 ราย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ Drive Thru FLU Vaccine โดยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ด้วยบริการแบบ DRIVE THRU เช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่มีการแพร่ระบาดเป็นประจำทุกปี ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสมาชิกในครอบครัว โดยปี 2563 มีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,409 ราย
โครงการความช่วยเหลือด้านการแพทย์ (Medical Treatment Support)
บริษัทฯ จัดทำโครงการความช่วยเหลือทางการแพทย์ควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี พร้อมทั้งดูแลพนักงานให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ ตลอดจนลดภาระค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการรักษาพยาบาลของพนักงาน โดยบริษัทฯ ดำเนินการช่วยเหลือพนักงานในขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
โครงการรักษ์หัวใจ
ในปัจจุบัน โรคที่อันตรายและพบได้บ่อยในพนักงาน ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง บริษัทฯ จึงดำเนินการตรวจสุขภาพพนักงานอย่างรอบด้าน และจัดแบ่งกลุ่มพนักงานออกตามระดับความเสี่ยงที่อาจป่วยเป็นโรคดังกล่าวในอนาคต ดังนั้น เพื่อที่จะจัดสรรมาตรการการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พนักงานที่ได้รับการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มความเสี่ยงสูง กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง กลุ่มความเสี่ยงน้อย
กลุ่มความเสี่ยง | มาตรการดูแล | จำนวนพนักงาน |
---|---|---|
กลุ่มความเสี่ยงสูง |
|
901 |
กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง |
|
2,753 |
กลุ่มความเสี่ยงน้อย |
|
827 |
ทั้งนี้ หลังจากการดำเนินโครงการเป็นระยะเวลา 2 เดือน พบว่าสามารถลดระดับความเสี่ยงด้านสุขภาพของพนักงานได้ทั้งหมดร้อยละ 24