การประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน องค์กรคาร์บอนต่ำ GC
บริษัทฯ ได้นำผลการประเมินเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน มาพิจารณาในการคัดเลือกและดำเนินการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนเชิงลึก (Human Rights Impact Assessment) เพื่อศึกษาถึงระดับผลกระทบของประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เหลืออยู่ โดยมีการเก็บข้อมูลผ่านการสำรวจและการสัมภาษณ์กับผู้ถือครองสิทธิ์ (Right Holders)
ซึ่งเป็นบุคคลที่อาจได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ได้แก่ พนักงานบริษัทฯ คู่ค้าทางธุรกิจ ลูกค้า และชุมชนท้องถิ่น โดยผลที่ได้จากการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ทำให้บริษัทฯ เข้าใจในประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากกิจกรรมทางธุรกิจ และสามารถกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบ รวมถึงการเยียวยาผู้ที่อาจได้รับผลกระทบอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนและการลดผลกระทบ (Human Rights Impacts and Mitigation Measures)
ผลกระทบ
- การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน อันมีเหตุจากความแตกต่างทางเพศ (เพศหญิง เพศชาย กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) เชื้อชาติ อายุ ศาสนา ชาติพันธุ์ วัฒนธรรม และชนชั้น
- สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน
- สภาพการจ้างงาน
- เสรีภาพในการเข้าร่วมสหภาพแรงงาน เสรีภาพในการเจรจาต่อรอง และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
- ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน อาจรั่วไหลออกสู่ภายนอก
มาตรการลดผลกระทบ (Mitigation and Remediation)
- นโยบายที่เกี่ยวข้อง อาทิ นโยบายทางด้านสิทธิมนุษยชน นโยบายป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ฯ รวมถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณธุรกิจ และจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ
- ส่งเสริมเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ผ่าน QSE Direction and Plan, QSE Direction and Plan, GC Management System (GCMS) and other standards (อาทิ PSM, OEMS, BCMS, IMS, ISO 45001)
- กำหนดมาตรการการรับมือวิกฤตโควิด-19 อาทิ Work From Home และ Online Learning Management System
- จัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการที่ส่งเสริมอำนาจการต่อรองของพนักงาน
- ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน และการสำรวจการมีส่วนร่วมของพนักงานรายปี
ผลกระทบ
- มาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
- สุขภาพและความปลอดภัยภายในชุมชน
มาตรการลดผลกระทบ (Mitigation and Remediation)
- นโยบายที่เกี่ยวข้อง อาทิ นโยบายทางด้านสิทธิมนุษยชน นโยบายและแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน รวมถึงมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ISO 39001
- จัดทำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System)
- ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ระบุไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
- ดำเนินการมีส่วนร่วมกับชุมชนผ่านโครงการเพื่อสังคม / ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจของชุมชน
ผลกระทบ
- การจ้างแรงงานผิดกฎหมาย
- การเลือกปฏิบัติต่อคู่ค้า
มาตรการลดผลกระทบ (Mitigation and Remediation)
- การลงนามการรับทราบจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิต จัดหาสินค้า วัตถุดิบ และการบริการ
- ปฏิบัติตามระบบบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
- ติดตามผลการดำเนินงานของคู่ค้า ผ่านการประเมินตนเองของคู่ค้า
- ดำเนินการสำรวจคู่ค้า (Supplier Survey)
- ตรวจประเมินผลการดำเนินงานตามแบบประเมินศักยภาพด้านความยั่งยืนของคู่ค้า
- ชี้แจงให้ผู้ค้าในระดับปฏิบัติการรับทราบ และปฏิบัติตามแนวทางการกำกับดูแลการดำเนินงานให้มีความสอดคล้องตามข้อกำหนด และมาตรฐานของบริษัท และกฎหมายแรงงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ว่าด้วยเรื่องสิทธิแรงงาน
ผลกระทบ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อาจมีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ในการดูแลคุ้มครองทรัพย์สินของบริษัทฯ
มาตรการลดผลกระทบ (Mitigation and Remediation)
- ดำเนินการตามมาตรฐานแนวทางและ/หรือขั้นตอนของบริษัทเกี่ยวกับการบริหารจัดการความมั่นคง ปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
- ฝึกอบรมเกี่ยวกับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบ
- ผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การปล่อยมลพิษทางอากาศ การจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสม การเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
มาตรการลดผลกระทบ (Mitigation and Remediation)
- จัดทำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System)
- ติดตามและรายงานการปล่อยมลพิษทุกประเภทที่เป็นผลมาจากการดำเนินงานของบริษัท
- มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาว
- พัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
- จัดให้มีศูนย์บริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน (EMC)
ผลกระทบ
- ด้านสุขภาพและความปลอดภัย
- การเลือกปฏิบัติกับลูกค้า
- ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
มาตรการลดผลกระทบ (Mitigation and Remediation)
- ปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 27001 และสถาบันแห่งชาติของมาตรฐานและเทคโนโลยี (NIST)
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-design Guideline) และแนวทางการออกแบบผลิตภัณฑ์ เชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-design Criteria)
- ติดฉลากสินค้าที่ระบุด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับลูกค้า
- ประเมินความเสี่ยงของสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ รวมถึงระบบประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพ (แนวทาง เกณฑ์การประเมินความเสี่ยง และแนวทางควบคุมความเสี่ยงทางเคมี) และการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม
- จัดให้มีระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Customer relationship management system: CRM)
- ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า
- ดำเนินการจัดการข้อร้องเรียนของลูกค้า
หมายเหตุ ช่องทางการแจ้งเบาะแส เช่น อีเมล เว็บไซต์ จดหมาย คณะกรรมการ สวัสดิการ เป็นต้น ได้ถูกจัดไว้สำหรับผู้ถือสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
จากผลการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ เมื่อพิจารณามาตรการควบคุมความเสี่ยงและลดผลกระทบที่มีอยู่แล้ว พบว่า ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่มีผลกระทบอยู่ในระดับต่ำถึงระดับปานกลาง ได้แก่ การมีส่วนร่วมของชุมชน เสรีภาพในการสมาคม สิทธิแรงงานในห่วงโซ่อุปทาน และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของลูกค้า ขณะที่มีประเด็นสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน 4 ประเด็น มีผลกระทบอยู่ในระดับสูง ได้แก่ 1) อาชีวอนามัยและความปลอดภัย2) การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน 3) สุขภาพและความปลอดภัยของคนในชุมชน และ 4) ผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบดังนี้
ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน | มาตรการเพิ่มเติม |
---|---|
อาชีวอนามัยและความปลอดภัย |
|
การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน |
|
สุขภาพและความปลอดภัยของคนในชุมชน |
|
ผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การปล่อยมลพิษทางอากาศ การจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสม การเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด |
|
การฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ (Remedies provided to those affected by business operation regarding human rights)
บริษัทฯ จัดเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ที่อาจได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งในรูปแบบความช่วยเหลือที่เป็นตัวเงิน และที่ไม่เป็นตัวเงิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยพิจารณาถึงระดับผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นรายกรณี กรณีเหตุกาณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในปี 2556 เป็นตัวอย่างการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเนื่องจากน้ำมันดิบปริมาณ 50,000 ลิตร รั่วไหลจากท่อรับน้ำมันดิบที่บริเวณชายฝั่งของอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 บริษัทฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งในระยะเร่งด่วน และระยะยาว ดังนี้
การแก้ไขระยะเร่งด่วน
บริษัทฯ ดำเนินการเก็บคราบน้ำมันให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน หลังเกิดเหตุการณ์ และให้ความช่วยเหลือเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นจำนวน 11,500 ราย เป็นจำนวนเงิน 514 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ดำเนินการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามข้อเรียกร้องทางกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบัน
การแก้ไขระยะยาว
บริษัทฯ จัดทำโครงการร่วมกับชุมชนและภาครัฐหลายโครงการ เพื่อฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ชุมชนโดยรอบ และสภาพแวดล้อมในพื้นที่ เช่น โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand และโครงการสายใยซั้งเชือก GC สร้างแหล่งอาศัยสัตว์น้ำ เป็นต้น นอกจานี้ บริษัทฯ ยังจัดซ้อมแผนฉุกเฉินเพื่อรับมือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
การติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน (Monitoring and Reviewing of the Human Rights Performance)
บริษัทฯ มีกระบวนการติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นประจำ โดยกำหนดเป้าหมายและดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators: KPIs) ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยมีหัวข้อการประเมิน อาทิ การอบบรมทางด้านนโยบายสิทธิมนุษยชน รวมถึงมีการตรวจประเมินด้านสิทธิมนุษยชนจากหน่วยงานภายนอก นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดให้คู่ค้ามีการตรวจประเมินด้านสิทธิมนุษยชนของตนเอง ตลอดจนบริษัทฯ ได้ติดตามผลการดำเนินงานทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลองค์กร (Environment, Social, Governance: ESG) ของคู่ค้าที่ครอบคลุมประเมินผลกระทบด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และสังคมชุมชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมช่องทางรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพนักงานและบุคคลภายนอก เพื่อนำความคิดเห็นมาทบทวนแก้ไข ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจจะนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน
กระบวนการติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ
การสร้างความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชน (Raising Awareness on Human Rights)
ผู้บริหารและพนักงานทุกคนในกลุ่มบริษัทฯ และบริษัทร่วมทุน ต้องผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เช่น การดูแลรักษาความปลอดภัยของพนักงานรักษาความปลอดภัย การเคารพสิทธิมนุษยชนของพนักงานฝ่ายบุคคล เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจถึงสิทธิมนุษยชนพื้นฐานที่ตนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานพึงได้รับ รวมถึงร่วมกันป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ให้เกิดขึ้นตลอดการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ครอบคลุมไปถึงห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ อีกทั้งบริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดทำระบบการฝึกอบรมด้านสิทธิมนุษยชน หรือ E-learning เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รับความรู้ความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชน
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการสื่อสารและให้ความรู้ทางด้านสิทธิมนุษยชนแก่คู่ค้า ผ่านการจัดประชุมคู่ค้าประจำปี (Annual Supplier Conference) เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทฯ มีความตระหนักและเคารพเรื่องสิทธิมนุษยชนภายในองค์กร เช่น นโยบายสิทธิมนุษยชน การประเมินสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน กิจกรรมของธุรกิจที่มีความเสี่ยง จำนวนพื้นที่ปฏิบัติงานที่มีแผนการบรรเทาความเสี่ยง ประเด็นทางสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก ชุมชนท้องถิ่น ผู้อพยพ สิทธิในการมีความปลอดภัยในการทำงาน และสิทธิในการเข้าร่วมสหภาพแรงงานหรือคณะกรรมการสวัสดิการ เป็นต้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นจากคู่ค้า
GC ในฐานะของการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ พร้อมร่วมผลักดันการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อการสร้างความเข้าใจ ป้องกัน และบรรเทาผลกระทบในประเด็นเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมทางธุรกิจ ร่วมกับการมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อโลกและสิ่งแวดล้อมตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และ Sustainability