บริษัทฯ ได้นำผลการประเมินเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน มาพิจารณาในการคัดเลือกและดำเนินการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนเชิงลึก (Human Rights Impact Assessment) เพื่อศึกษาถึงระดับผลกระทบของประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เหลืออยู่ โดยมีการเก็บข้อมูลผ่านการสำรวจและการสัมภาษณ์กับผู้ถือครองสิทธิ์ (Right Holders)

ซึ่งเป็นบุคคลที่อาจได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ได้แก่ พนักงานบริษัทฯ คู่ค้าทางธุรกิจ ลูกค้า และชุมชนท้องถิ่น โดยผลที่ได้จากการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ทำให้บริษัทฯ เข้าใจในประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากกิจกรรมทางธุรกิจ และสามารถกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบ รวมถึงการเยียวยาผู้ที่อาจได้รับผลกระทบอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนและการลดผลกระทบ (Human Rights Impacts and Mitigation Measures)

หมายเหตุ ช่องทางการแจ้งเบาะแส เช่น อีเมล เว็บไซต์ จดหมาย คณะกรรมการ สวัสดิการ เป็นต้น ได้ถูกจัดไว้สำหรับผู้ถือสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

จากผลการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ เมื่อพิจารณามาตรการควบคุมความเสี่ยงและลดผลกระทบที่มีอยู่แล้ว พบว่า ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่มีผลกระทบอยู่ในระดับต่ำถึงระดับปานกลาง ได้แก่ การมีส่วนร่วมของชุมชน เสรีภาพในการสมาคม สิทธิแรงงานในห่วงโซ่อุปทาน และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของลูกค้า ขณะที่มีประเด็นสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน 4 ประเด็น มีผลกระทบอยู่ในระดับสูง ได้แก่ 1) อาชีวอนามัยและความปลอดภัย2) การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน 3) สุขภาพและความปลอดภัยของคนในชุมชน และ 4) ผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบดังนี้

ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน มาตรการเพิ่มเติม

อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

  • ทบทวนการประเมินแผนและขั้นตอนด้านสุขภาพและความปลอดภัย เพื่อเสริมสร้างการดำเนินการที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านสุขภาพและความปลอดภัย
  • จัด Morning Safety Talk เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย รวมทั้งแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนด้านสุขภาพและความปลอดภัย
  • จัดหาอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติมและประกันภัยในกรณีวิกฤต เช่น โรคระบาด เป็นต้น

การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน

  • จัดการฝึกอบรมเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิดในที่ทำงานให้บ่อยยิ่งขึ้น
  • แจ้งพนักงานเรื่องข้อมูลของผู้ร้องเรียนหรือพยานที่เกี่ยวข้องจะเป็นความลับ
  • สร้างวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวกที่ส่งเสริมให้พนักงานทุกคนเคารพซึ่งกันและกันในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกัน

สุขภาพและความปลอดภัยของคนในชุมชน

  • พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันและลดการปล่อยมลพิษจากการดำเนินธุรกิจ
  • ติดตามและประเมินผลการจัดการของเสียโดยเทียบกับมาตรฐานเป็นประจำ รวมทั้งกำหนดการดำเนินการร่วมกันเพิ่มเติมสำหรับตัวชี้วัดที่ไม่สอดคล้องกับกฏหมาย
  • สร้างฐานข้อมูลสำหรับกลุ่มเสี่ยง เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาแผนการฉุกเฉิน โดยคำนึงถึงผู้ถือสิทธิเหล่านี้ด้วย
  • เพิ่มความร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น เช่น โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย อาสาสมัครสาธารณสุข เป็นต้น เพื่อสนับสนุนโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้องกับชุมชน

ผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การปล่อยมลพิษทางอากาศ การจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสม การเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

  • ดำเนินมาตรการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และแสดงเจตจำนงกับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ในการบูรณาการการดูแลสิ่งแวดล้อมพร้อมกับการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน
  • สร้างโครงการ CSR ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมผ่านความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ผู้นำชุมชน ผู้จัดหาสินค้าและบริการ ผู้รับเหมา เป็นต้น เพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

การฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ (Remedies provided to those affected by business operation regarding human rights)

บริษัทฯ จัดเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ที่อาจได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งในรูปแบบความช่วยเหลือที่เป็นตัวเงิน และที่ไม่เป็นตัวเงิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยพิจารณาถึงระดับผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นรายกรณี กรณีเหตุกาณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในปี 2556 เป็นตัวอย่างการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเนื่องจากน้ำมันดิบปริมาณ 50,000 ลิตร รั่วไหลจากท่อรับน้ำมันดิบที่บริเวณชายฝั่งของอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 บริษัทฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งในระยะเร่งด่วน และระยะยาว ดังนี้

การแก้ไขระยะเร่งด่วน

บริษัทฯ ดำเนินการเก็บคราบน้ำมันให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน หลังเกิดเหตุการณ์ และให้ความช่วยเหลือเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นจำนวน 11,500 ราย เป็นจำนวนเงิน 514 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ดำเนินการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามข้อเรียกร้องทางกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบัน

การแก้ไขระยะยาว

บริษัทฯ จัดทำโครงการร่วมกับชุมชนและภาครัฐหลายโครงการ เพื่อฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ชุมชนโดยรอบ และสภาพแวดล้อมในพื้นที่ เช่น โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand และโครงการสายใยซั้งเชือก GC สร้างแหล่งอาศัยสัตว์น้ำ เป็นต้น นอกจานี้ บริษัทฯ ยังจัดซ้อมแผนฉุกเฉินเพื่อรับมือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

การติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน (Monitoring and Reviewing of the Human Rights Performance)

บริษัทฯ มีกระบวนการติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นประจำ โดยกำหนดเป้าหมายและดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators: KPIs) ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยมีหัวข้อการประเมิน อาทิ การอบบรมทางด้านนโยบายสิทธิมนุษยชน รวมถึงมีการตรวจประเมินด้านสิทธิมนุษยชนจากหน่วยงานภายนอก นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดให้คู่ค้ามีการตรวจประเมินด้านสิทธิมนุษยชนของตนเอง ตลอดจนบริษัทฯ ได้ติดตามผลการดำเนินงานทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลองค์กร (Environment, Social, Governance: ESG) ของคู่ค้าที่ครอบคลุมประเมินผลกระทบด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และสังคมชุมชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมช่องทางรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพนักงานและบุคคลภายนอก เพื่อนำความคิดเห็นมาทบทวนแก้ไข ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจจะนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน

กระบวนการติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ

การสร้างความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชน (Raising Awareness on Human Rights)

ผู้บริหารและพนักงานทุกคนในกลุ่มบริษัทฯ และบริษัทร่วมทุน ต้องผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เช่น การดูแลรักษาความปลอดภัยของพนักงานรักษาความปลอดภัย การเคารพสิทธิมนุษยชนของพนักงานฝ่ายบุคคล เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจถึงสิทธิมนุษยชนพื้นฐานที่ตนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานพึงได้รับ รวมถึงร่วมกันป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ให้เกิดขึ้นตลอดการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ครอบคลุมไปถึงห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ อีกทั้งบริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดทำระบบการฝึกอบรมด้านสิทธิมนุษยชน หรือ E-learning เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รับความรู้ความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชน

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการสื่อสารและให้ความรู้ทางด้านสิทธิมนุษยชนแก่คู่ค้า ผ่านการจัดประชุมคู่ค้าประจำปี (Annual Supplier Conference) เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทฯ มีความตระหนักและเคารพเรื่องสิทธิมนุษยชนภายในองค์กร เช่น นโยบายสิทธิมนุษยชน การประเมินสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน กิจกรรมของธุรกิจที่มีความเสี่ยง จำนวนพื้นที่ปฏิบัติงานที่มีแผนการบรรเทาความเสี่ยง ประเด็นทางสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก ชุมชนท้องถิ่น ผู้อพยพ สิทธิในการมีความปลอดภัยในการทำงาน และสิทธิในการเข้าร่วมสหภาพแรงงานหรือคณะกรรมการสวัสดิการ เป็นต้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นจากคู่ค้า

GC ในฐานะของการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ พร้อมร่วมผลักดันการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อการสร้างความเข้าใจ ป้องกัน และบรรเทาผลกระทบในประเด็นเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมทางธุรกิจ ร่วมกับการมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อโลกและสิ่งแวดล้อมตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และ Sustainability