ความหลากหลายทางชีวภาพ
แนวทางการบริหารจัดการ (Management Approach) GRI 3-3 (2021)
การเสื่อมโทรมของความหลากหลายทางชีวภาพ การเสื่อมโทรมของถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ล้วนส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ สุขภาพ และวิถีชีวิตของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งมวล บริษัทฯ ตระหนักถึงความเร่งด่วนของความเสี่ยงเหล่านี้ จึงมุ่งมั่นสนับสนุนกรอบการดำเนินงาน Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework (GBF) เพื่อร่วมหยุดยั้งและฟื้นฟูความสูญเสียทางธรรมชาติภายในปี 2573
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว บริษัทฯ ได้นำแนวทางของ Taskforce on Nature-related Financial Disclosures (TNFD) มาใช้ในการประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ โดยวิเคราะห์ทั้งผลกระทบและการพึ่งพาธรรมชาติ (Impacts & Dependencies) การดำเนินการตามมาตรฐานสากลนี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถระบุและประเมินความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลตามข้อแนะนำของ TNFD เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่คำนึงถึงความยั่งยืนของระบบนิเวศและเศรษฐกิจในระยะยาว
หลักการบรรเทาผลกระทบตามลำดับขั้น (Mitigation Hierarchy Principle)
- หลีกเลี่ยง (Avoid) – บริษัทฯ มุ่งมั่นหลีกเลี่ยงการดำเนินธุรกิจในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางความหลากหลายทางชีวภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านนโยบาย QSHEB ครอบคลุม การประเมิน EIA การบูรณาการความหลากหลายทางชีวภาพ การบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขยายมาตรการลดความเสี่ยงไปยังห่วงโซ่อุปทาน เพื่อบรรลุเป้าหมาย ไม่มีการสูญเสียสุทธิของความหลากหลายทางชีวภาพ (No Net Loss: NNL) ผลกระทบเชิงบวกสุทธิ (Net Positive Impact: NPI) และไม่มีการตัดไม้ทำลายป่าสุทธิ (No Gross Deforestation)
- ลดผลกระทบ (Minimize) – บริษัทฯ มีระบบบริหารสิ่งแวดล้อมที่ตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม มุ่งเน้นพื้นที่สำคัญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ร่วมมือกับภาครัฐและนิคมอุตสาหกรรม ติดตามผลผ่าน KPIs เช่น การใช้น้ำ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมลพิษ เป็นต้น พร้อมบูรณาการความเสี่ยงด้านธรรมชาติในกระบวนการบริหารความเสี่ยงองค์กร (ERM) และพัฒนาโครงการต่างๆ ได้แก่ Eco-design และพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
- ฟื้นฟู (Restore) – บริษัทฯ มุ่งเน้นการฟื้นฟูระบบนิเวศและการอนุรักษ์ผ่านโครงการการจัดการน้ำ ได้แก่ โครงการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศในและนอกทะเล ร่วมกับองค์กรต่างๆ เช่น โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งระยอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูระยะยาว 10 ปี นอกจากนี้ยังประเมินความเสี่ยงด้านน้ำทั้งการจัดการน้ำและความเสี่ยงจากน้ำท่วม เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและมลพิษที่กระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
- ชดเชย (Offset) – บริษัทฯ ขยายโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายทางความหลากหลายทางชีวภาพ โดยดำเนินโครงการที่ขับเคลื่อนด้วยธรรมชาติ (NbS) ผ่านการปลูกป่า 8,600 เอเคอร์ร่วมกับภาครัฐ เอกชน และชุมชน นอกจากนี้ยังร่วมมือกับพันธมิตรในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี CCS, CCUS และการลงทุนผ่านทุนร่วมทุนขององค์กร (CVC)
บริษัทฯ มุ่งมั่น ปฏิบัติตามข้อกำหนด และติดตามการดำเนินงานของตนเองและคู่ค้า เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทฯ มีการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและการบูรณาการคุณค่า ทั้งนี้ บริษัทฯ คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ และได้นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการตัดสินใจทางธุรกิจ ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้บูรณาการและสื่อสารเกี่ยวกับการบรรเทาการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการตัดไม้ทำลายป่าทั้งภายในกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทฯ และองค์กรภายนอก
ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (No Net Loss – NNL) ภายใต้ขอบเขตที่สามารถจัดการได้ รวมถึงมีการส่งเสริมให้การดำเนินโครงการทั้งในปัจจุบันและอนาคต มีการสร้างผลกระทบสุทธิเชิงบวก (Net Positive Impact) สำหรับกรณีที่เป็นไปได้ อีกทั้งยังสนับสนุนให้คู่ค้าทางตรง (Tier-1 Supplier) และหุ้นส่วนทางธุรกิจ (Business Partners) ดำเนินธุรกิจโดยปราศจากผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้สุทธิ (No Net Deforestation) และผลักดันให้บริษัทฯ ดำเนินกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า (No Gross Deforestation) เพื่อการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายสำหรับความมุ่งมั่นและการดำเนินงานทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพต่างๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero (Compensation-Driven) โดยตั้งเป้าหมายชดเชยคาร์บอน 1 ล้านตันด้วย Nature-Based Solutions ภายในปี 2593
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะรักษาการดำเนินงานในปัจจุบันและในอนาคตอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกสุทธิ (NPI) และไม่มีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างร้ายแรงในกิจกรรมปิโตรเคมีในประเทศไทยภายในปี 2568
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำข้อกำหนดเพื่อบริหารจัดการประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ในนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม และความต่อเนื่องทางธุรกิจ และคำแสดงเจตจำนงด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพของบริษัทฯ และความมุ่งมั่นในการไม่ตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งออกโดยคณะกรรมการบริษัทฯ
ความร่วมมือกับเครือข่ายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (Engagement and Collaboration with the Biodiversity Network)
บริษัทฯ ร่วมมือกับ ชุมชน หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา และองค์กรเอกชน ผ่านกลยุทธ์ Step-Up CSR ซึ่งประกอบด้วยสามกลยุทธ์หลัก คือ Better Living Better Sharing และ Better Ecology โดยเชื่อมโยงกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พร้อมขยายการดำเนินงาน Social Enterprise ในโครงการต่างๆ
บริษัทฯ มุ่งมั่นรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ธรรมชาติและสร้างประโยชน์ให้ชุมชนท้องถิ่น โดยส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมในการสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว พร้อมสร้างผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ผ่านโครงการต่างๆ ได้แก่ โครงการฟื้นฟูป่า รักษ์น้ำ เขาห้วยมะหาด มุ่งเน้นการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและส่งเสริมการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก โครงการ “ยิ่งปลูก ยิ่งดี” (The More You Plant, the Better) เป็นโครงการปลูกป่าและป่าเชิงนิเวศในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ตามธรรมชาติ โครงการป่านิเวศ ระยองวนารมย์ (Eco-Forest Rayong Wanarom) มุ่งเน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในจังหวัดระยอง โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลตามแนวชายฝั่งระยอง (Marine Resource Conservation along the Rayong Coastline Project) ฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยให้สัตว์น้ำ ผ่านอุปกรณ์รวมฝูงปลาและการปลูกป่าชายเลน โครงการความร่วมมือการใช้แพลตฟอร์มการจัดการขยะครบวงจร ร่วมกับ OR ผ่านแพลตฟอร์ม YOUturn เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยั่งยืน ร่วมกับแสนสิริ พัฒนาถังน้ำพลาสติกคุณภาพสูงและสีไร้สารระเหยอันตราย (VOCs) เพื่อไลฟ์สไตล์ยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมมือกับชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมในเอเชีย ดำเนินโครงการปลูกป่าเพื่อเสริมความหลากหลายทางชีวภาพและศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอน ภายใต้แนวทาง Compensation-driven เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือกับเครือข่ายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
องค์กร / หน่วยงานภายนอก | ความร่วมมือกับเครือข่ายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ |
---|---|
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง | สนับสนุนและให้ความร่วมมือในการใช้พื้นที่ชายฝั่งและจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชนท้องถิ่น |
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ชมรมคนรักษ์ป่า ชากลูกหญ้า-ห้วยมะหาด |
ร่วมลงนามความร่วมมือในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ป่าเขาห้วยมะหาดระยะเวลา 10 ปี (ปี 2556 – 2566) โดยมีพื้นที่ ดำเนินโครงการ 2,500 ไร่ |
ชุมชนท้องถิ่นบ้านฉาง | ความร่วมมือในการดำเนินโครงการ ปลูกป่านิเวศ ระยองวนารมย์ ภายใต้การดูแลของบริษัทฯ |
สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
ร่วมพัฒนาพื้นที่เทกองขยะเดิมบริเวณศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช บนพื้นที่ 55 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สีเขียว ภายใต้โครงการปลูกต้นไม้ “ยิ่งปลูก ยิ่งดี” |
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง | ความร่วมมือดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต เป็นการส่งเสริมความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก |
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) | เข้าร่วมการประชุมกลุ่มย่อยภายใต้โครงการ Global Biodiversity Framework Early Action Support โดยมีผสานงานร่วมกันในการให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเป้าหมายระดับชาติ และกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ฉบับที่ (NBSAP) พร้อมขับเคลื่อน OECMs เพื่อเตรียมดำเนินการอย่างเร่งด่วน นำไปสู่การลงมือปฏิบัติภายใต้กรอบความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกคุนหมิง-มอนทรีออล โครงการนี้ริเริ่มโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และที่ปรึกษาที่ร่วมกันดำเนินโครงการ GBF-EAS และสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) |
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (OR) | ใช้แพลตฟอร์มการจัดการขยะ YOUturn และแพลตฟอร์มค้าปลีกของ OR เพื่อผลักดันการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพลาสติกชีวภาพ |
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) | พัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยั่งยืน มีคุณภาพสูง ทนทาน และประหยัดพลังงาน รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ปราศจากสารประกอบอินทรีย์ระเหย (VOCs) ที่เป็นอันตราย |
โครงการด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่โดดเด่น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้อนุรักษ์และส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพผ่านโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมมากมาย โดยโครงการทั้งหมดดำเนินการตามหลักการบรรเทาผลกระทบตามลำดับขั้น (Mitigation Hierarchy Principle)
ลดผลกระทบ (Minimize)
โครงการความร่วมมือการใช้แพลตฟอร์มการจัดการขยะครบวงจรของบริษัทฯ ผ่าน YOUturn และแพลตฟอร์มค้าปลีกของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR)
บริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (OR) ใช้แพลตฟอร์มการจัดการขยะ YOUturn และแพลตฟอร์มค้าปลีกของ OR เพื่อผลักดันการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพลาสติกชีวภาพ โดยตั้งเป้าหมายเป็นผู้ผลิตพลาสติกรีไซเคิลรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน
โครงการร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
บริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยั่งยืน เช่น ถังน้ำจากเรซินพลาสติกที่ทนทานและประหยัดพลังงาน และสีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ปราศจากสารประกอบอินทรีย์ระเหย (VOCs) ที่เป็นอันตราย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน
ฟื้นฟู (Restore)
โครงการฟื้นป่า รักษ์น้ำ เขาห้วยมะหาด
บริษัทฯ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) และชมรมคนรักษ์ป่า ชากลูกหญ้า-ห้วยมะหาด เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ 2,500 ไร่ บนเขาห้วยมะหาด จังหวัดระยอง มุ่งฟื้นฟูป่าต้นน้ำ เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชน และส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ
ปัจจุบัน พื้นที่ปลูกป่าสามารถกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้ 32,807 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และได้รับการรับรองจากโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก โดยจากระยะเวลาการดำเนินงาน 10 ปี มีการศึกษาด้านความหลากหลายทางชีวภาพ พบว่า มีพรรณไม้ จำนวนทั้งสิ้น 146 ชนิด สัตว์และแมลง จำนวน 463 ชนิด และตลอดการดำเนินงานสามารถสร้างรายได้ลงสู่ชุมชนผ่านการจ้างงาน การสนับสนุนสินค้าและบริการของชุมชนในพื้นที่เป็นมูลค่ากว่า 5.6 ล้านบาท
โครงการฟื้นป่า รักษ์น้ำ เขาห้วยมะหาดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลตลอดแนวชายฝั่งระยอง
โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลตลอดแนวชายฝั่งระยอง เพื่อคืนความสมบูรณ์ และสมดุลของระบบนิเวศ สร้างความยั่งยืนแก่ท้องทะเลระยอง เนื่องจากสำหรับคนพื้นเพระยองแล้ว การทำประมงเรือเล็กพื้นบ้าน คือ อาชีพดั้งเดิมที่สอดคล้องกับภูมิประเทศที่มีชายฝั่งทะเลอันอุดมสมบูรณ์ บริษัทฯ จึงจัดกิจกรรมของโครงการฯ ให้ครอบคลุมในหลายมิติ เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทางบกและทางทะเล
-
สร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล ด้วยซั้งกอ
สร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลชายฝั่ง ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ทะเลตลอดแนวชายฝั่งจังหวัดระยอง โดยทำซั้งกอ และแนวกั้นเขตอนุรักษ์ทรัพยากรประมง ซึ่งสอดคล้องเป้าหมายการพัฒนายั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 14 รักษ์ชีวิตใต้น้ำ (Life below water)
การดำเนินโครงการและผลสัมฤทธิ์:
จัดทำซั้งกอร่วมกับกลุ่มประมง 29 กลุ่ม จำนวนซั้ง 350 กอง
-
ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ
บริษัทฯ ร่วมกับกลุ่มปตท. ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ทะเลระยอง เช่น ปลากะพง หอยหวาน หมึกหอม กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย เป็นต้น
การดำเนินโครงการและผลสัมฤทธิ์:
ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำร่วมกับกลุ่มประมงจำนวนกว่า 16 กลุ่ม เป็นประเภทปลา กุ้ง ปู และหอย รวมแล้วมากกว่า 50 ล้านตัว
-
ธนาคารสัตว์น้ำ (ปูดำ, ปูม้าไข่นอกกระดอง, ปลาและหมึก)
การนำไข่ของสัตว์น้ำมาเพาะฟักและอนุบาลก่อนปล่อยตัวอ่อนลงสู่ทะเลเพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ชาวประมงยังมีการจำกัดการจับสัตว์น้ำในช่วงที่เหมาะสม โดยไม่จับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ หรือจับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สัตว์น้ำมาจำหน่ายหรือบริโภค ส่งผลให้จำนวนสัตว์ทะเลเพิ่มขึ้น และรายได้ที่เพิ่มขึ้นของชาวประมง
การดำเนินโครงการและผลสัมฤทธิ์:
จัดทำธนาคารสัตว์น้ำร่วมกับกลุ่มประมง 24 กลุ่ม โดยเป็นธนาคารปูดำจำนวน 6 กลุ่ม ธนาคารปูม้าไข่นอกกระดองจำนวน 16 กลุ่ม และธนาคารปลาและหมึกจำนวน 2 กลุ่ม
ชดเชย (Offset)
โครงการพัฒนาสวนป่านิเวศอ่อนนุช
บริษัทฯ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่เทกองขยะเดิม ครอบคลุมพื้นที่ 55 ไร่ บริเวณศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช กรุงเทพฯ ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวในรูปแบบ 'ป่าเชิงนิเวศ' โดยดำเนินการปลูกต้นไม้บนพื้นที่เทกองขยะเดิมตามหลักวิชาการโดยผู้เชี่ยวชาญจากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการปลูกป่าครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบจากมลพิษต่างๆ แต่ยังเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น จากการดำเนินงานระยะเวลา 2 ปี โครงการได้ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 45,000 ต้น สำรวจพบพรรณไม้ จำนวนทั้งสิ้น 79 ชนิด สัตว์และแมลง จำนวน 158 ชนิด โดยพื้นที่ป่าเชิงนิเวศแห่งนี้มีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนได้ 165 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และปลดปล่อยออกซิเจน 120 ตันต่อปี สอดคล้องกับนโยบายการจัดการความยั่งยืนทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ของบริษัทฯ รวมทั้งยังสนับสนุนนโยบายของกรุงเทพมหานครในการเพิ่มพื้นที่ป่าในเมืองอีกด้วย
โครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต
บริษัทฯ ร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดทำโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต เป็นการส่งเสริมความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาวิกฤตโลกร้อนในปัจจุบัน
โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ตราด จันทบุรี และเพชรบุรี ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 2,900 ไร่ โดยคาดว่าจากการดำเนินโครงการดังกล่าวจะกักเก็บคาร์บอนได้ ประมาณ 4,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี อีกทั้งยังส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศป่าชายเลน อันเป็นแหล่งอยู่อาศัยของสัตว์น้ำและพันธุ์พืชพื้นถิ่นที่มีบทบาทสำคัญต่อความสมดุลของธรรมชาติ โดยมีการศึกษาข้อมูลพื้นฐานด้านความหลากหลายทางชีวภาพ พบว่า มีพรรณไม้จำนวน 102 ชนิด สัตว์จำนวน 113 ชนิด และแมลงจำนวน 36 ชนิด โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สนับสนุนการชดเชยคาร์บอน (Offsetting) โดยคาร์บอนเครดิตจากแหล่งกักเก็บธรรมชาติ (Nature-based Solutions) ตอบโจทย์ความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกลง 20% ภายในปี 2030 และมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 อย่างมั่นคง