การเสริมสร้างศักยภาพให้พนักงาน
บริษัทฯ วางแผนเส้นทางความก้าวหน้าตามสายอาชีพของพนักงานควบคู่กับการจัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพให้กับพนักงานทุกระดับ โดยกำหนดความสามารถที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานแต่ละตำแหน่ง ทั้งความเชี่ยวชาญตามลักษณะงานและภาวะผู้นำที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละระดับ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจและกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากร ตลอดจนวางแผนการพัฒนาผู้สืบทอดตำแหน่งสำหรับคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านวัฒนธรรมองค์กร
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพอย่างหลากหลายให้กับพนักงาน อาทิ โครงการ Global Leadership Acceleration Program (G-LAP) โครงการ Data DIY by Alteryx โครงการ dEX | SPARK - Data Science and Engineering Program โครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มผลผลิต โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตามทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา (PI-ChEPS) โครงการ GC Group Talent และโครงการ GC Next Gen
โครงการ Global Leadership Acceleration Program (G-LAP)

เป็นโครงการพัฒนาพนักงานระดับผู้จัดการฝ่าย (Vice President: VP) ในการพัฒนาแนวคิดการบริหารอย่างผู้ประกอบการ ส่งเสริมทักษะความเฉียบคมทางธุรกิจ (Business Acumen) รวมถึงการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ ผ่านการนำปัญหาในการดำเนินงานของบริษัทฯ มาเป็นกรณีศึกษา โดยให้พนักงานที่เข้าร่วมโครงการพัฒนา ปรับปรุง และสร้างสรรค์แนวทางแก้ปัญหา (Solution) โดยมีผู้บริหารระดับสูงให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด (Mentoring) รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจจาก INSEAD ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับด้านการเรียนการสอนทางด้านธุรกิจที่ดีที่สุดในโลก มาช่วยในการตรวจทาน วิเคราะห์ และให้ข้อคิดเห็น (Feedback) ถึงแนวทางแก้ปัญหาโดยละเอียด
เป้าหมายและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำนเนินโครงการ
- เพื่อเร่งพัฒนาศักยภาพของพนักงานระดับผู้จัดการฝ่าย ให้มีกรอบความคิด (Mindset) และทักษะการคิดวิเคราะห์ที่เป็นปัจจุบัน รวมถึงมีความเข้าใจและรู้เท่าทันต่อความต้องการและความเปลี่ยนแปลงของตลาด ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระดับที่สูงขึ้น และสามารถทดแทนตำแหน่งที่ว่างได้หากจำเป็น
- เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางการแก้ปัญหา (Solution) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นนั้น สอดคล้องกับกลยุทธของบริษัทฯ และสามารถประยุกต์ใช้ได้ในเชิงปฎิบัติ (Practical Execution) โดยมีผู้บริหารระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจจาก INSEAD คอยให้คำแนะนำ
ผลประโยชน์เชิงตัวเลขที่บริษัทฯ จะได้รับ
พนักงานที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการ สามารถทดแทนตำแหน่งระดับที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรภายนอกได้ถึง 3 ล้านบาทต่อปี
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
0.39%
โครงการ Data DIY by Alteryx

มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ Alteryx ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการประมวลข้อมูลขั้นสูงที่ใช้งานง่ายและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มาสนับสนุนกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการจัดการอบรมให้กับพนักงานในหลากหลายสายงาน โดยมีวิทยากรทรงคุณวุฒิมาให้คำแนะนำและแนวแนวการใช้งาน
ตัวอย่างการนำ Alteryx มาประยุกต์ใช้ เช่น จัดทำระบบกรองและเตรียมข้อมูลขั้นต้นสำหรับตัวเลขการดำเนินงานด้านความปลอดและสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งองค์กร พัฒนาระบบการวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค (Customer Behavior Analysis) และยกระดับระบบการจัดทำรายงานและประเมินต้นทุนสำหรับหน่วยงานบริหารโครงการ (Project Management Offices: PMO) เป็นต้น
เป้าหมายและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
- พนักงานมีความเชี่ยวชาญในการนำ Alteryx มาประยุกต์ใช้ในการประมวล จัดการ และรวมข้อมูล (Data Preparation and Blending) กับการทำงานภายในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงาน
- เรียนรู้วิธีการสร้างแบบจำลองในการทำนาย (Predictive Model) โดยใช้ Alteryx รวมทั้งเข้าใจเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้สามารถเข้าใจถึงสถานการณ์ทางธุรกิจในปัจจุบัน
- เรียนรู้วิธีการสร้างและใช้งาน Macro และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ใน Alteryx เพื่อให้เข้าใจวิธีการนำไปใช้ปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ (Workflow) และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
- สามารถสร้างเป็น Use Case ได้อย่างอิสระ
ผลประโยชน์เชิงตัวเลขที่บริษัทฯ จะได้รับ
พนักงานที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการ สามารถประยุกต์ใช้ Alteryx ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยรวมได้ถึง 29 ล้านบาทต่อปี
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
0.78%
บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ True Digital Academy ตั้งแต่ปี 2021 ในการพัฒนาและจัดการเรียนการสอนหลักสูตร Data Science and Engineering Program เพื่อให้พนักงานสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมมาเพิ่มศักยภาพด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลขององค์กร ตลอดจนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาต่อยอดเพื่อรองรับการวิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ โดยในปี 2564 - 2565 มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นกว่า 1,700 คน และมีโครงการที่สามารถนำไปต่อยอดปฏิบัติจริงทั้งสิ้น 15 โครงการ อาทิ โครงการ Electrical Reliability Machine Learning & Predictive Analytic คือ การพัฒนา Prediction Model เพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแต่ละ Failure Mode ของอุปกรณ์ในระบบ Electrical Power Switchgear มาประเมิน Reliability & Health Index มาเชื่อมโยงกันและสามารถวางแผนในการตัดสินใจงานบำรุงรักษา อุปกรณ์เพื่อพิจารณาในเรื่องของ Risk & Cost และโครงการ Machine Learning Model (With Natural Language Processing (NLP) ที่ตรวจสอบและจำแนกเหตุการณ์ไม่มีความเสี่ยง ความเสี่ยงต่ำ ความเสี่ยงสูง และอุบัติการณ์ ในโรงงาน
ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการ Data Science and Engineering Program สามารถสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่ายให้บริษัทฯ ดังนี้
ลดค่าใช้จ่าย |
---|
14.43 ล้านบาท* |
*เป็นตัวเลขประมาณการล่าสุดใน Stage IL2 ของระบบ Idea MAN

โครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มผลผลิต โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตามทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา (PI-ChEPS)
โครงการ PI-ChEPS เป็นโครงการที่พัฒนาองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมเคมีและเพิ่มทักษะการคิดแบบวิพากษ์ให้แก่พนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ของทั้งบริษัทฯ ให้ดีขึ้น ตลอดจนตอบสนองเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ทั้งนี้ พนักงานที่เข้าร่วมโครงการ PI-ChEPs จะได้รับการพิจารณาด้านการพัฒนาอาชีพเป็นพิเศษ
สำหรับกระบวนการเรียนรู้ของโครงการ PI-ChEP เป็นไปตามแนวคิดของทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 3 แนวคิด ดังนี้
- แนวคิดที่ 1 คือ ทักษะการเรียนรู้และการคิด ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำสมาธิ MicroWorlds GOGO Board การค้นหาข้อมูล ภาษาอังกฤษและการคำนวณ เป็นต้น
- แนวคิดที่ 2 คือ การพัฒนาทักษะและความรู้ด้านวิศวกรรมเคมีในแขนงด้าน ๆ เช่น Process Science & Calculation, Mass & Energy Balance, Fluid Transport, Heat Transfer, Unit Operation and Measurement & Control เป็นต้น
- แนวคิดที่ 3 คือ การเรียนรู้การทำโครงการที่เป็นการนำปัญหาภายในโรงงานมาเป็นโจทย์ (Project Base Learning) เพื่อพัฒนาทักษะด้านการวางแผนงาน การวิเคราะห์ และการนำเสนอ จากการทำโครงงานเดี่ยวและกลุ่ม

โครงการ PI-ChEPS ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2556 มาจนถึงปัจจุบัน และได้มีการประยุกต์ความรู้จากโครงการนี้ ซึ่งก่อให้เกิดโครงการต่างๆ ภายใต้โครงการ PI-ChEPS จำนวนมากและได้ดำเนินการจนเป็นผลสำเร็จ รวมถึงสามารถประหยัดต้นทุนการผลิตให้แก่บริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง
จากโครงการพัฒนาศักยภาพพนักงานข้างต้น บริษัทฯ ได้ประเมินและวัดผลการดำเนินโครงการฯ โดยใช้การคำนวณผลตอบแทนจากการฝึกอบรมตาม Kirkpatrick Model และหลักเกณฑ์ของ Philips’ ROI Methodology ในส่วนของ Kirkpatrick Model ใช้สำหรับการประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมการฝึกอบรม ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ 1) การตอบสนอง (Reaction) 2) การเรียนรู้ (Learning) 3) พฤติกรรม (Behavior) และ 4) ผลลัพธ์ (Results) สำหรับโครงการฯ ที่อยู่ในระดับที่ 4 ตาม Kirkpatrick Model จะถูกนำมาคำนวณผลตอบแทนจากการฝึกอบรม (Training ROI) ตามหลักเกณฑ์ของ Philips’ ROI Methodology ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1) การวางแผนการประเมินเพื่อการจัดทำแผนและจัดทำข้อมูลพื้นฐาน 2) การรวบรวมข้อมูล 3) การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจำแนกผลประโยชน์ที่ได้รับจากการอบรม และแปลงค่าเป็นตัวเงินเพื่อใช้ในการคำนวนหาผลตอบแทนจากโครงการ และ 4) การรายงานผลเป็นรูปแบบรายงานและถ่ายทอดผลลัพธ์ โดยข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณผลตอบแทนจากการฝึกอบรม คือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการฝึกอบรม และเงินลงทุนในการทำโครงการฯ
ตัวอย่าง ผลตอบแทนจากการฝึกอบรมของโครงการ PI-ChEPS แสดงดังต่อไปนี้
ผลตอบแทนจากการจัดฝึกอบรมโครงการ PI-ChEPs
(ร้อยละ)
โครงการ GC Group Talent
บริษัทฯ จัดทำโครงการ GC Group Talent เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพของพนักงานในการรองรับตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทในกลุ่มในประเทศไทย และขยายกลุ่มพนักงานที่มีศักยภาพสูงให้รองรับการขยายธุรกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากล ผ่านการพัฒนาทักษะด้าน Leadership ที่เน้นการเรียนรู้แบบ Experiential Learning ที่ speed up ให้พนักงานมีความพร้อมทันต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยโครงการมีรายละเอียดดังนี้
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาความสามารถและศักยภาพของพนักงาน เช่น การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมของพนักงานให้เกิดประสิทธิภาพผ่านระบบออนไลน์ที่เรียกว่า ระบบการบริหารจัดการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) หลักสูตรการฝึกอบรมให้แก่พนักงานบนในหัวข้อ เช่น GC Voxy English และ MSTeams และการดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เป็นต้น รวมถึง Up Learning Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ที่พนักงานสามารถเลือกเรียนหลักสูตรได้อย่างอิสระ ตามความสนใจของแต่ละบุคคล โดยหลักสูตรดังกล่าวได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี โดยพิจารณาถึงทักษะและความสามารถทางวิชาการที่จำเป็นในโลกปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้พนักงานที่ต้องการจะเปลี่ยนผ่านหรือต้องการพัฒนาตนเองให้เท่าทันถึงทักษะและความรู้สมัยใหม่ ได้มีโอกาสเรียนรู้และนำไปใช้ในงานของตน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2565 มีจำนวนทั้งหมด 949 หลักสูตร
ในปี 2565 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของพนักงานในภาพรวม สามารถสรุปได้ดังนี้
ผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาพนักงาน
(Employee Development Performance)
ประเภทของการฝึกอบรม (Types of Training)
ประเภท | ร้อยละ | ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ยของพนักงานบริษัทฯ (ชั่วโมง/คน/ปี) |
เงินลงทุนด้านการฝึกอบรมเฉลี่ย (บาท/คน/ปี) |
---|---|---|---|
ด้านเทคนิค (Technical) | 18 | 7.7 | 3,320 |
ด้านความเป็นผู้นำ (Leadership) | 15 | 8.1 | 11,553 |
ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health and Safety) | 35 | 16.6 | 2,968 |
ด้านการสนับสนุนและขยายธุรกิจ (Support for business for expansion) | 15 | 10.0 | 3,568 |
อื่นๆ (Others) | 17 | 8.4 | 5,402 |
ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ย (Average Training Hours)
ประเภท | ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ย (ชั่วโมง/คน/ปี) |
เงินลงทุนด้านการฝึกอบรมเฉลี่ย (บาท/คน/ปี) |
---|---|---|
ผู้หญิง | 32.03 | 17,357 |
ผู้ชาย | 33.21 | |
ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ย | 37.92 |
การลงทุนด้านการฝึกอบรม (Investment in Employee Training)
115.68 ล้านบาท