การเสริมสร้างศักยภาพให้พนักงาน
บริษัทฯ วางแผนเส้นทางความก้าวหน้าตามสายอาชีพของพนักงานควบคู่กับการจัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพให้กับพนักงานทุกระดับ โดยกำหนดความสามารถที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานแต่ละตำแหน่ง ทั้งความเชี่ยวชาญตามลักษณะงานและภาวะผู้นำที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละระดับ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจและกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากร ตลอดจนวางแผนการพัฒนาผู้สืบทอดตำแหน่งสำหรับคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านวัฒนธรรมองค์กร
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพอย่างหลากหลายให้กับพนักงาน อาทิ โครงการ CG Group Talent for SVP Pool โครงการ GC Next Gen โครงการ dEX | SPARK - Data Science and Engineering program และโครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มผลผลิต โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตามทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา (PI-ChEPS)
โครงการพัฒนาภาวะผู้นำ
(Leadership Excellence)
ด้วยความตระหนักว่าภาวะผู้นำที่เป็นเลิศ ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้สามารถส่งมอบผลการปฏิบัติงานที่เหนือกว่าเป้าหมายที่กำหนด บริษัทฯ จึงดำเนินโครงการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารและพนักงานมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา
โครงการพัฒนาความเป็นผู้นำ 2
(Leadership Development Program II: LDP 2)
โครงการ LDP 2 เป็นโครงการพัฒนาความเป็นผู้นำสำหรับผู้บริหารระดับผู้จัดการฝ่าย (Vice President) เพื่อเรียนรู้การสร้างทีม การเร่งการเปลี่ยนแปลง การจัดการเครือข่าย และการพัฒนายุทธศาสตร์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และภาวะการเป็นผู้นำของผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นโครงการผู้เข้าร่วมโครงการต้องริเริ่มโครงการสาธิตภายใต้โครงการการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร (Max Infinity Project) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ True Digital Academy ตั้งแต่ปี 2021 ในการพัฒนาและจัดการเรียนการสอนหลักสูตร Data Science and Engineering Program เพื่อให้พนักงานสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมมาเพิ่มศักยภาพด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลขององค์กร ตลอดจนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาต่อยอดเพื่อรองรับการวิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ โดยในปี 2564-2565 มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นกว่า 1,700 คน และมีโครงการที่สามารถนำไปต่อยอดปฏิบัติจริงทั้งสิ้น 8 โครงการ อาทิ โครงการ Electrical Reliability Machine Learning & Predictive Analytic คือ การพัฒนา Prediction Model เพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแต่ละ Failure Mode ของอุปกรณ์ในระบบ Electrical Power Switchgear มาประเมิน Reliability & Health Index มาเชื่อมโยงกันและสามารถวางแผนในการตัดสินใจงานบำรุงรักษา อุปกรณ์เพื่อพิจารณาในเรื่องของ Risk & Cost และโครงการ Machine Learning Model (With Natural Language Processing (NLP) ที่ตรวจสอบและจำแนกเหตุการณ์ไม่มีความเสี่ยง ความเสี่ยงต่ำ ความเสี่ยงสูง และอุบัติการณ์ ในโรงงาน
ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการ Data Science and Engineering Program สามารถสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่ายให้บริษัทฯ ดังนี้
เพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ | ลดค่าใช้จ่าย |
---|---|
6.73 ล้านบาท* | 42.78 ล้านบาท* |
*เป็นตัวเลขประมาณการล่าสุดใน Stage IL2 ของระบบ Idea MAN

โครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มผลผลิต โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตามทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา (PI-ChEPS)
โครงการ PI-ChEPS เป็นโครงการที่พัฒนาองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมเคมีและเพิ่มทักษะการคิดแบบวิพากษ์ให้แก่พนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ของทั้งบริษัทฯ ให้ดีขึ้น ตลอดจนตอบสนองเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ทั้งนี้ พนักงานที่เข้าร่วมโครงการ PI-ChEPs จะได้รับการพิจารณาด้านการพัฒนาอาชีพเป็นพิเศษ
สำหรับกระบวนการเรียนรู้ของโครงการ PI-ChEP เป็นไปตามแนวคิดของทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 3 แนวคิด ดังนี้
- แนวคิดที่ 1 คือ ทักษะการเรียนรู้และการคิด ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำสมาธิ MicroWorlds GOGO Board การค้นหาข้อมูล ภาษาอังกฤษและการคำนวณ เป็นต้น
- แนวคิดที่ 2 คือ การพัฒนาทักษะและความรู้ด้านวิศวกรรมเคมีในแขนงด้าน ๆ เช่น Process Science & Calculation, Mass & Energy Balance, Fluid Transport, Heat Transfer, Unit Operation and Measurement & Control เป็นต้น
- แนวคิดที่ 3 คือ การเรียนรู้การทำโครงการที่เป็นการนำปัญหาภายในโรงงานมาเป็นโจทย์ (Project Base Learning) เพื่อพัฒนาทักษะด้านการวางแผนงาน การวิเคราะห์ และการนำเสนอ จากการทำโครงงานเดี่ยวและกลุ่ม

โครงการ PI-ChEPS ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2556 มาจนถึงปัจจุบัน และได้มีการประยุกต์ความรู้จากโครงการนี้ ซึ่งก่อให้เกิดโครงการต่างๆ ภายใต้โครงการ PI-ChEPS จำนวนมากและได้ดำเนินการจนเป็นผลสำเร็จ รวมถึงสามารถประหยัดต้นทุนการผลิตให้แก่บริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง
จากโครงการพัฒนาศักยภาพพนักงานข้างต้น บริษัทฯ ได้ประเมินและวัดผลการดำเนินโครงการฯ โดยใช้การคำนวณผลตอบแทนจากการฝึกอบรมตาม Kirkpatrick Model และหลักเกณฑ์ของ Philips’ ROI Methodology ในส่วนของ Kirkpatrick Model ใช้สำหรับการประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมการฝึกอบรม ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ 1) การตอบสนอง (Reaction) 2) การเรียนรู้ (Learning) 3) พฤติกรรม (Behavior) และ 4) ผลลัพธ์ (Results) สำหรับโครงการฯ ที่อยู่ในระดับที่ 4 ตาม Kirkpatrick Model จะถูกนำมาคำนวณผลตอบแทนจากการฝึกอบรม (Training ROI) ตามหลักเกณฑ์ของ Philips’ ROI Methodology ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1) การวางแผนการประเมินเพื่อการจัดทำแผนและจัดทำข้อมูลพื้นฐาน 2) การรวบรวมข้อมูล 3) การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจำแนกผลประโยชน์ที่ได้รับจากการอบรม และแปลงค่าเป็นตัวเงินเพื่อใช้ในการคำนวนหาผลตอบแทนจากโครงการ และ 4) การรายงานผลเป็นรูปแบบรายงานและถ่ายทอดผลลัพธ์ โดยข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณผลตอบแทนจากการฝึกอบรม คือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการฝึกอบรม และเงินลงทุนในการทำโครงการฯ
ตัวอย่าง ผลตอบแทนจากการฝึกอบรมของโครงการ PI-ChEPS แสดงดังต่อไปนี้
ผลตอบแทนจากการจัดฝึกอบรมโครงการ PI-ChEPs
(ร้อยละ)
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความสามารถและศักยภาพของพนักงาน เช่น การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมของพนักงานให้เกิดประสิทธิภาพผ่านระบบออนไลน์ที่เรียกว่า ระบบการบริหารจัดการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) หลักสูตรการฝึกอบรมให้แก่พนักงานบนในหัวข้อ GC Voxy English และ MSTeams และการดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เป็นต้น
บริษัทฯ จัดทำโครงการ GC Group Talent for SVP Pool เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพของพนักงานในการรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในกลุ่ม 12 บริษัทในประเทศไทย และขยายกลุ่มพนักงานที่มีศักยภาพสูงให้รองรับการขยายธุรกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากล ผ่านการพัฒนาพนักงานทั้งในเชิงเทคนิค (Technical Skills) และเชิงการรับรู้ ประมวลผล และตอบสนองสิ่งต่าง ๆ อย่างสรรรค์ (Soft Skills) นอกจากนี้ โครงการยังยกระดับการเรียนรู้ การแบ่งปันแนวความคิด การพัฒนาทักษะและคุณสมบัติความเป็นผู้นำที่เป็นสากล สำหรับการดำรงตำแหน่งระดับสูงของกลุ่มบริษัทฯ โดยโครงการนี้มี 4 ขั้นตอนที่สำคัญ ได้แก่

โครงการ GC Next Gen เป็นโครงการฝึกอบรม พัฒนาความคิด และส่งเสริมชุดทักษะให้กับพนักงาน ผ่านการเรียนรู้ทั้งในการเป็นผู้ประกอบการและแนวคิดในเชิงนวัตกรรมและการแก้ปัญหา รวมถึงการมีส่วนร่วม การทํางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานมีประสบการณ์การปฏิบัติงานและการดําเนินธุรกิจจริง ซึ่งจากการดำเนินโครการ GC Next Gen ในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีแนวคิดนวัตกรรมที่โดดเด่น 3 โครงการ ดังนี้
แนวคิดนวัตกรรม (Innovative Idea) | ผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Expected Outcome) |
---|---|
การออกแบบระบบการบริการเก็บฝาและขวดพลาสติกอย่างครบวงจร |
|
การคิดค้นบรรจุภัณฑ์ที่เปลี่ยนสีได้ตามความสดของอาหาร |
|
การยกระดับคุณภาพเม็ดพลาสติกสําหรับใช้ในการผลิตท่อ HDPE |
|
ในปี 2564 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของพนักงานในภาพรวม สามารถสรุปได้ ดังนี้
ผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาพนักงาน
(Employee Development Performance)
ประเภทของการฝึกอบรม (Types of Training)
ประเภท | ร้อยละ | ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ยของพนักงานบริษัทฯ (ชั่วโมง/คน/ปี) |
เงินลงทุนด้านการฝึกอบรมเฉลี่ย (บาท/คน/ปี) |
---|---|---|---|
ด้านเทคนิค (Technical) | 24 | 3.2 | 2,135 |
ด้านความเป็นผู้นำ (Leadership) | 16 | 2 | 1,668 |
ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health and Safety) | 19 | 3.5 | 478 |
ด้านการสนับสนุนและขยายธุรกิจ (Support for business for expansion) | 3 | 14.6 | 3,560 |
อื่นๆ (Others) | 38 | 0.4 | 595 |
ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ย (Average Training Hours)
ประเภท | ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ย (บาท/คน/ปี) |
เงินลงทุนด้านการฝึกอบรมเฉลี่ย (บาท/คน/ปี) |
---|---|---|
ผู้หญิง | 122.75 | 14,887 |
ผู้ชาย | 42.84 | |
ทั้งหมด | 165.59 | |
ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ย | 31.76 |
การลงทุนด้านการฝึกอบรม (Investment in Employee Training)
134.53 ล้านบาท