บริษัทฯ ทบทวนกฎหมาย ข้อกำหนด และมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิก หรือควบคุมการใช้สารเคมีทั้งในระดับประเทศและระดับสากล เช่น บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย ตามประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรม สารทำลายบรรยากาศชั้นโอโซนตามพันธกรณีพิธีสารมอนทรีออล การขึ้นทะเบียน REACH (Registration Evaluation Authorization and Restriction of Chemicals) และ RoHs (The Restriction of Hazardous Substances) เป็นต้น เพื่อควบคุมการใช้สารเคมีตลอดวัฏจักรชีวิตการผลิตผลิตภัณฑ์ และจัดทำแผนการจัดการลด/เลิกการใช้สารเคมีอันตราย รวมทั้งใช้เป็นหลักเกณฑ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย

บริษัทฯ มีเป้าหมายพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยการลดสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ (ตามข้อกำหนดใน Annex XVII จาก Registration, Evaluation, Authorisation and Restriction of Chemicals (REACH) ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 3 ของรายได้จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งผลการดำเนินการในปี 2567 บริษัทฯ สามารถดำเนินการให้มีสารอันตรายในผลิตภัณฑ์เหลือเพียงร้อยละ 2 ของรายได้จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทฯ

นอกเหนือจากนี้ บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายที่จะไม่ใช้สารเคมีจำพวก PFAS (Per-and Polyfluoroalkyl Substances) เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิต โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้นจากเมทัลโลซีน (Metallocene Linear Density Polyethylene: mLLDPE) ในกลุ่ม Flexible Plastic ภายในปี 2568 เนื่องจากในหลายประเทศได้พิจารณาว่าสาร PFAS อาจเป็นสารอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เริ่มมีการพิจารณาควบคุมและกำหนดกฎระเบียบในการห้ามนำสาร PFAS มาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ เช่น สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (US EPA) เพิ่งประกาศผ่านกฎหมายว่าด้วยการควบคุมสารพิษ (Toxic Substance Control Act: TSCA) ให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสาร PFAS รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสาร PFAS เป็นส่วนประกอบ มีการรายงานข้อมูลการใช้งาน การกำจัด รวมถึงระดับความอันตรายต่างๆ เป็นต้น โดยบริษัทฯ ได้เริ่มมีการคิดค้นและทดลองผลิตผลิตภัณฑ์ทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสาร PFAS เป็นส่วนประกอบแล้วตั้งแต่ปี 2566 โดยในปี 2567 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการผลิต mLLDPE ในกลุ่ม Flexible Plastic เชิงพาณิชย์ และเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ในปี 2568 ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนจะขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัทฯ ในอนาคต

บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะใช้สารอื่นทดแทนสารอันตราย และยกเลิกการใช้สารอันตรายในการผลิตผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทฯ ติดตามและรายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนมองหาการสร้างความร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อหาแนวทางในการทดแทนสารอันตราย รวมถึงจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณสำหรับการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทดแทนและเลิกใช้สารอันตรายในผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทฯ จัดสรรงบประมาณ 90,000 บาท ในปี 2567 และจัดสรรเพิ่มเติม 1 ล้านบาทในปี 2568 สำหรับการคิดค้นและทดลองผลิตภัณฑ์โดยปราศสาร PFAS

โครงการความร่วมมือกับ TIPMSE เดินหน้าขับเคลื่อน Design for Recycling Guideline มุ่งบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน

บริษัทฯ เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา “ร่างแนวทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการรีไซเคิล (Packaging Design for Recycling Guideline)” ซึ่งพิจารณาผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนของวัฏจักรชีวิตบรรจุภัณฑ์ ร่วมกับสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (Thailand Institute of Packaging and Recycling Management for Sustainable Environment: TIPMSE) ภายใต้การดำเนินงานของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (The Federation of Thai Industries: FTI) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันแนวทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อรองรับการรีไซเคิล โดยมุ่งเน้นยกเลิกการใช้ฉลาก Polyvinyl Chloride (PVC) บนขวดพลาสติกประเภท Polyethylene Terephthalate (PET) เนื่องจาก PVC เป็นสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย และส่งผลให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์พลาสติก PET รีไซเคิลมีคุณภาพลดลง

ทั้งนี้ บริษัทฯ จัดทำรายการสารเคมีด้านความปลอดภัยและความเป็นพิษของผลิตภัณฑ์ (Product Safety and Toxicity Disclosure) พร้อมทั้งสื่อสารข้อมูลสารเคมีดังกล่าวให้พนักงาน และคู่ค้ารับทราบ อีกทั้งบริษัทฯ ได้ติดฉลากบนผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน GHS (Globally Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals) ขององค์การสหประชาชาติ เพื่อสื่อสารความเป็นอันตราย ตลอดจนมีการตรวจสอบและติดตามการจัดการผลิตภัณฑ์ รวมถึงให้คำแนะนำด้านการจัดการผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัยแก่ลูกค้า เช่น การใช้งาน การเก็บ การขนส่ง การกำจัด เป็นต้น

เอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมี (SDS)

บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการจัดกลุ่มสารเคมี การติดฉลาก และการแสดงรายละเอียดบนเอกสารข้อมูลความปลอดภัยในหมวดสารอันตรายด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมตาม Globally Harmonised System for Classification and labeling of Chemicals (GHS) ร้อยละ 69 ของจำนวนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด โดยได้จัดทำเอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมี (Safety Data Sheet: SDS) ตามระบบการจัดกลุ่ม GHS และเปิดเผยเอกสาร SDS ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์ ในมุมมองแบบ One Page และบนแอปพลิเคชันสำหรับผู้รับเหมา เพื่อสื่อสารข้อมูลด้านความปลอดภัยของสารเคมีต่างๆ ต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ชุมชน คู่ค้า กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนของกระบวนการรักษาและการติดตามระยะยาวทางการแพทย์สำหรับผู้ที่ได้รับความเสี่ยงจากสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ใน SDS อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ตระหนักและคำนึงถึงความเสี่ยงอันก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจากการใช้สารเคมีอันตราย โดยมุ่งมั่นที่จะลด จำกัด และยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายที่อาจส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยด้านสุขภาพของพนักงานและผู้บริโภค อีกทั้งได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสลดการใช้สารเคมีอันตราย หรือเปลี่ยนเป็นสารเคมีที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจัดอันดับและกำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้น้อยที่สุด