ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน
กลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ระดับผลกระทบ
Impact Materiality : สูงมาก
Financial Materiality : สูงมาก
Double Materiality : สูงมาก
ผู้มีส่วนได้เสีย
ผู้ถือหุ้น
หุ้นส่วนทางธุรกิจ
ลูกค้า
นักลงทุน
ชุมชน
ภาครัฐ
พนักงาน

เป้าหมาย

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขต 1 และ 2) ลงร้อยละ 20 ภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในขอบเขต 1 และ 2 ภายในปี 2593
  • ภายในปี 2573ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขต 3 ให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2593

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ (Challenges and Opportunities)

การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ นับเป็นปัญหาสำคัญที่ได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เนื่องจากเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ ทั้งความเสี่ยงทางกายภาพ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง การเกิดพายุรุนแรง รวมถึงความเสี่ยงเปลี่ยนผ่านจากการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลต่อต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งในด้านการผลิต การเข้าถึงวัตถุดิบ และการปรับตัวตามข้อกำหนด บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจทั้งภายในและภายนอกองค์กร จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงด้านต้นทุน ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างความน่าเชื่อถือต่อนักลงทุน สอดคล้องกับพันธสัญญาระดับประเทศและเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

แนวทางการบริหารจัดการ (Management Approach) GRI 3-3 (2021)

กลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Strategy)

บริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการพลังงาน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ International Financial Reporting Standards S2 (IFRS S2) (Climate-related Disclosures) โดยมีแผนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การบริหารจัดการพลังงานและการอนุรักษ์พลังงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนพิจารณาความเป็นไปได้ของการนำพลังงานทดแทนมาใช้ เพื่อช่วยยกระดับการดำเนินงานด้านการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งมีแผนในการขยายขอบเขตการดำเนินงานครอบคลุมการลดก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นโดยอ้อม (GHG Scope 3 Other Indirect Emissions) ตลอดห่วงโซ่คุณค่า

บริษัทฯ มุ่งเน้นการดำเนินตามยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศไทย (Thailand's Long-Term Low Greenhouse Gas Emission Development Strategy: LT-LEDS) ควบคู่กับการสร้างการเติบโตทางธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ ได้แก่

  1. การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization) โดยผ่านการดำเนินงาน 3 ด้าน คือ
    • Efficiency-driven: การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
    • Portfolio-driven: การปรับโครงสร้างธุรกิจระยะยาวสู่กลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ (High Value-Low Carbon Business)
    • Compensation-driven: การกักเก็บและชดเชยคาร์บอนเพื่อบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกส่วนที่เหลือจากกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจ
  2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Product)
  3. การพัฒนาธุรกิจไฮโดรเจนคาร์บอน (Hydrogen-Carbon Business)

สามารถติดตามรายละเอียดแนวทางลดการปล่อยคาร์บอนสู่เป้าหมาย Net Zero เพิ่มเติมได้ที่ Net Zero

บริษัทฯ มีแนวทางการบริหารจัดการและเป้าหมายระยะกลางที่ชัดเจน ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขต 1 และ 2)ร้อยละ 20 ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2593 โดยการดำเนินการนั้นสอดคล้องกับความตกลงปารีส บริษัทฯ ส่งเสริมและผลักดันให้ลูกค้าและคู่ค้ามีส่วนร่วมในการมุ่งไปสู่เป้าหมาย Net Zero ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจผ่านความร่วมมือและการมีส่วนร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด บริษัทฯ ได้ผนวกรวมการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เข้าในกรอบการดำเนินงานการมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ โดยการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนั้น สอดคล้องกับการเป้าหมายความตกลงปารีส และสามารถสร้างแรงผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายการเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดนโยบาย เป้าหมาย และตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPI) ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และสนับสนุนความตั้งใจในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของนานาชาติทั่วโลก ซึ่งเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของบริษัทฯ มีความสอดคล้องกับเป้าหมายในระดับประเทศและระดับโลก อาทิ เป้าหมายการมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย (NDCs) เป้าหมายความตกลงปารีส (Paris Agreement) จากการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 7 และเป้าหมายที่ 13 ขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) ตลอดจนโครงการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอน หรือ CDP

เป้าหมายที่ 7 คือ พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ (UN SDG 7: Affordable and Clean Energy)

เป้าหมายที่ 13 คือ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UN SDG 13: Climate Action)

บริษัทฯ ดำเนินการวิเคราะห์และป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกที่อาจเกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ ทั้งนี้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk) ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบวงกว้างต่อบริษัทฯ และ/หรืออุตสาหกรรมในช่วงระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า โดยนำระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System) มาประยุกต์ใช้ในการบริหารและกำหนดแนวทางการบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต เพื่อบรรเทาผลกระทบให้อยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ ภายใต้กลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของบริษัทฯ

การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate-related Performance) GRI 305-1 (2016,) GRI 305-2 (2016), GRI 305-3 (2016), GRI 305-4 (2016), GRI 305-5 (2016)

บัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Organizational Greenhouse Gas Inventory)

บริษัทฯ ได้จัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร โดยอ้างอิงวิธีคำนวณตามมาตรฐาน ISO 14064-1:2018, the Greenhouse Gas Protocol, American Petroleum Institute (API 2009), Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) 2006 และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ และรายงานผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศตามแนวทางของ International Financial Reporting Standards S2 (IFRS S2) (Climate-related Disclosures) ซึ่งกำหนดให้เปิดเผยข้อมูลใน 4 ประเด็น คือ 1) การกำกับดูแล (Governance) 2) กลยุทธ์ (Strategy) 3) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และ 4) ตัวชี้วัดและเป้าหมาย (Metrics and Targets) และการตอบแบบประเมินด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ภายใต้กรอบการประเมินของสถาบันประเมินความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือระดับโลก CDP Climate Change

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ขอบเขต 3) ตามแนวทางการประเมิน เพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน จำนวนทั้งสิ้น 9 กลุ่มหลัก เพื่อให้การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทานมีประสิทธิภาพ ได้แก่

ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขต 3) (Greenhouse Gas Emissions (Scope 3)

กิจกรรม ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
(ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)
การซื้อสินค้าและบริการ เช่น การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การใช้น้ำ เป็นต้น 5,872,136
สินค้าทุน เช่น โรงงาน เครื่องมือ เครื่องจักร เป็นต้น 121,552
กิจกรรมเกี่ยวกับเชื้อเพลิงและพลังงานซึ่งไม่รวมอยู่ในขอบเขตที่ 1 และขอบเขตที่ 2 1,277,531
การขนส่งและการกระจายสินค้าของธุรกิจต้นน้ำ เช่น การขนส่งวัตถุดิบหลักทางท่อ และการซื้อไฟฟ้าผ่านระบบสายส่ง เป็นต้น 580,966
การขนส่งและการกระจายสินค้าของธุรกิจปลายน้ำ เช่น การขนส่งเม็ดพลาสติก เป็นต้น 35,726
กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ เช่น การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์จากเม็ดพลาสติก เป็นต้น 3,608,576
การใช้งานผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและไบโอดีเซล (B100) เป็นต้น 25,989,989
การจัดการซากของผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก เป็นต้น 1,076,756
การลงทุน 1,593,811

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการจัดการก๊าซเรือนกระจก ทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง ทางอ้อม และทางอ้อมอื่นๆ ตามมาตรฐาน ISO 14064-1 โดยผู้ตรวจสอบภายนอก

GC Greenhouse Gas Report 2024
ดาวน์โหลด
Assurance Statement Related to GHG Report 2024
ดาวน์โหลด

การกำหนดราคาคาร์บอนภายในองค์กร (Internal Carbon Pricing)

บริษัทฯ ได้นำราคาคาร์บอนภายในองค์กร (Internal Carbon Price: ICP) มาพิจารณาผลกระทบด้านคาร์บอนต่อโครงการสำหรับประกอบการตัดสินใจการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงการต่างๆ ที่บริษัทฯ ลงทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทฯ นำ ICP มาใช้เป็นปัจจัยหนึ่งร่วมกับ Marginal Abatement Costs Curve (MACC) สำหรับการตัดสินใจลงทุนในโครงการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้บริษัทฯ ประยุกต์ใช้ราคาคาร์บอนภายในองค์กร เพื่อบรรลุจุดประสงค์ต่างๆ โดยมีโครงการที่สำคัญ อาทิ

การประเมินโครงการติดตั้งท่อขนส่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานผลิตเอทิลีนไกลคอล ไปยังลูกค้า

การผลักดันโครงการคาร์บอนต่ำ ซึ่งถูกประยุกต์เป็น Shadow ประกอบ ในเกณฑ์ตัดสินใจในการลงทุนโครงการ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม

การผลักดันโครงการคาร์บอนต่ำซึ่งถูกประยุกต์เป็น Shadow ประกอบในเกณฑ์ตัดสินใจในการลงทุนโครงการ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม การจัดตั้งทีมเฉพาะกิจในการดำเนินการร่วมกับคู่ค้าของกลุ่ม ปตท. เพื่อพัฒนาและสนับสนุนการใช้ราคาคาร์บอนภายในระหว่างองค์กร

จากการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิต ได้ดังนี้

ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขตที่ 1 และ 2)

ผลการประเมิน
  2564 2565 2566 2567
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
(ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)
8.55 8.18 7.96 7.82

เป้าหมายปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปี 2567

(ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)

ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อตันการผลิต (ขอบเขตที่ 1 และ 2)

สามารถดูรายละเอียดโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดดเด่นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติมได้ที่ GC Integrated Sustainability Report 2567 อาทิ

  • โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Efficiency-driven) ได้แก่ โครงการอนุรักษ์พลังงาน โครงการการนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่จากผลิตภัณฑ์เบนซีนที่กลั่นได้ไปใช้แลกเปลี่ยนความร้อนกับอะโรเมติกส์หนัก โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันก๊าซ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพคอมเพรสเซอร์ โครงการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพ
  • โครงการปรับโครงสร้างธุรกิจในระยะยาว (Portfolio-driven) ได้แก่ ENVICCO โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงมาตรฐานระดับโลก โครงการ GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม NatureWorks ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพชนิดสลายตัวได้ทางชีวภาพชั้นนำของโลก allnex ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตสารเคลือบผิวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
  • โครงการกักเก็บและชดเชยคาร์บอน (Compensation-driven) ได้แก่ โครงการศึกษาการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) ร่วมกับกลุ่ม ปตท. โครงการกรอบการทำงานสำหรับการเปลี่ยนผ่านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรม และโครงการการดูดซับคาร์บอนด้วยวิธีธรรมชาติ