วิธีคิดเชิงบวกและการลงมือทำอย่างจริงจังช่วยสร้างคุณค่าให้กับทุกสรรพสิ่ง วันนี้ หญิงเก่งและแกร่งจากชุมชนวัดชากลูกหญ้า จังหวัดระยอง ได้มองเห็นประโยชน์จากขยะพลาสติกไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำดื่ม ขวดพลาสติกใส และขวดขุ่นอย่างขวดนมจากสารพัดยี่ห้อช่วยสร้างรายได้อย่างดีงาม และกลายเป็นภารกิจที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้จริงช่วยแก้โลกรวน กู้โลกร้อน และสร้างประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม งานนี้มีประกาศนียบัตรโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เป็นเครื่องการันตี

คุณนภาพัฒน์ อู่เจริญ ประธานวิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เล่าให้ฟังว่า “ตอนแรกชุมชนวัดชากลูกหญ้าได้จัดตั้งธนาคารคัดแยกขยะประกันชีวิต และเปิดรับสมาชิกในชุมชนให้นำขยะจากครัวเรือนมาฝากติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ได้ครบ 250 บาท และหากนำมาฝากอย่างต่อเนื่องทุก ๆ เดือน จะได้รับสวัสดิการค่าฌาปณกิจ 4,000 บาท หากเสียชีวิต และดูแลเรื่องทุนการศึกษา สวัสดิการในการเดินทางไปหาหมอ

จนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2563 เกิดเป็นศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ปัจจุบันเรามีสมาชิกมากกว่า 260 คน ศูนย์ฯ นี้จัดตั้งขึ้นเพื่อรับซื้อและขายขยะพลาสติกอย่างเป็นระบบโดยสามารถเก็บขยะได้มากถึง 2 ตัน/เดือน จากก้าวแรกในวันนั้น มาถึงวันนี้กลายเป็นการสร้างรายได้ให้กับหลายครอบครัวในชุมชนจนกลายเป็นการสร้างอาชีพถาวร และการคัดแยกขยะจากครัวเรือนไปพร้อมๆ กับกับรณรงค์ให้ความรู้ ขยะในชุมชนก็ลดน้อยลง ซึ่ง GC ก็เข้ามาสนับสนุนทั้งเรื่องโรงเรือน การเทพื้น ให้เครื่องอัดก้อนขวดพลาสติก ลิพต์มือ พร้อมกับหาตลาด และโรงงานเอ็นวิคโค (ENVICCO) เข้ามาสนับสนุนและให้ความรู้ ตั้งแต่การคัดแยกขยะที่ถูกต้อง แยกประเภทขวด สี และให้เครื่องอัดก้อนขยะขวดพลาสติก และเครื่องมือในการขนย้ายซึ่งเป็นประโยชน์มาก จากพลาสติกที่น้ำหนักเบาต้องใช้พื้นที่จำนวนมากในเก็บ เราก็สามารถบีบอัดพลาสติกทำเป็นก้อนสี่เหลี่ยม เตรียมพร้อมส่งให้กับโรงงานเอ็นวิคโคไปผลิตเป็นเม็ดรีไซเคิล

สิ่งที่พวกเราภาคภูมิใจคือความตั้งใจของพวกเราที่พยายามสร้างศูนย์นี้ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับชุมชนโดยรอบ ได้นำความรู้เรื่องการคัดแยกขยะไปบอกต่อให้ชาวบ้านจนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการคัดแยกขยะพลาสติกอย่างถูกต้อง และร่วมกันสานต่อให้เกิดความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อมของชาวมาบตาพุด โดยล่าสุดศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ได้รับประกาศนียบัตรจากโครงการ LESS ซึ่งขยะพลาสติกที่ชุมชนนี้เก็บได้ เมื่อแปลงเป็นตัวเลขแล้ว สามารถช่วยกู้วิกฤตโลกร้อน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเทียบกับการปลูกต้นไม้ได้มากถึง 20,949 ต้น และช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนได้มากถึง 188.538 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ดร.ชญาน์ จันทวสุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนองค์กร กล่าวว่า GC ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเป็นแนวทางของการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และให้เกิดประโยชน์สูงสุด เรานำ “YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม” หรือระบบการจัดการขยะพลาสติกอย่างครบวงจรเข้าไปช่วยเสริมให้ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ให้สามารถบริหารจัดการได้ตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่การรับซื้อ การบริหารภายใน การคัดแยก การจัดเก็บ ตลอดจนการขายพลาสติกรีไซเคิลให้กับ ENVICCO ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ระดับฟู้ดเกรด (Food Grade) มาตรฐานระดับโลก จากกำลังการผลิตของโรงงานสามารถช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกหรือพลาสติกใช้แล้วในประเทศได้ถึง 60,000 ตัน/ปี

ปัจจุบันชุมชนวัดชากลูกหญ้ากลายเป็นโครงการต้นแบบแห่งแรกของจังหวัดระยอง ที่สามารถบริหารจัดการขยะพลาสติกได้ครบวงจร (End to End Waste Management) ที่ได้สร้างการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชนทั้งหมด และยังช่วยให้คนในชุมชนได้รู้ว่าการทำเรื่องรีไซเคิลสามารถทำเป็นธุรกิจได้ โดยสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ และทำให้ทั้งชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ และภายในปีนี้ GC มีแผนในการขยายให้ได้จำนวน 5 ชุมชนทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่จังหวัดระยองอีกด้วย

ท้ายนี้ ผมขอแสดงความยินดี และชื่นชมชุมชนวัดชากลูกหญ้าที่ได้รับประกาศเกียรติคุณจากโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) ถือเป็นการยกย่องชุมชนที่ได้ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกจากการจัดการขยะพลาสติกอย่างครบวงจร ซึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจครั้งนี้ เกิดจากความตั้งใจ การลงมือทำจริงของชุมชนวัดชากลูกหญ้านั่นเอง

#TGO #กิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก #LESS #ยิ่งใกล้คุณยิ่งต้องดี #เคมีที่เข้าถึงทุกความสุข #GCChemistryForBetterLiving