18 พฤษภาคม 2563

4 New Normal ..สิ่งที่จะเปลี่ยนไปหลัง COVID-19

แชร์:

ใครจะคิดว่า.. อยู่มาวันหนึ่งโลกของเราจะพบเจอกับโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนมากมาย รวมถึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการการใช้ชีวิตของผู้คน จนเริ่มมองภาพไม่ออกว่าโลกหลัง COVID-19 จะเป็นอย่างไร.. ทำให้ตอนนี้นักธุรกิจ ผู้บริหาร และนักลงทุนของบริษัทใหญ่ ๆ ทั่วโลก เริ่มมีการคาดการณ์สถานการณ์โลกหลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 เพื่อปรับเปลี่ยนและวางแผนให้ธุรกิจสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยเฉพาะพฤติกรรมของคนที่จะต้องเปลี่ยนไป ซึ่งบางอย่างกลายเป็น New Normal หรือความปกติใหม่ที่เราต้องเจอ

1.Work From Home เป็นเรื่องปกติ

มีการคาดการณ์ว่าหลายๆ บริษัทจะเริ่มให้อิสระในการทำงานกับพนักงานมากขึ้น โดยพนักงานอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาที่ออฟฟิศทำให้บริษัทเอง ข้อดีคือ บริษัทสามารถลดพื้นที่และค่าใช้จ่ายในการเช่าสำนักงานได้ด้วย นอกจากนี้ เทรนด์การออกแบบสำนักงานแบบเปิดโล่ง (Open Plan Office) ที่ไม่มีพาร์ทิชั่นกั้นระหว่างโต๊ะทำงาน ซึ่งเคยได้รับความนิยมในออฟฟิศยุคใหม่ ก็อาจลดลง และอาจมีการปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่แบบปิดมากขึ้น เพราะการมีพาร์ทิชันกั้นระหว่างโต๊ะทำงาน จะช่วยลดโอกาสการสัมผัสเชื้อ COVID-19 ได้มากขึ้น

2.ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อทำงานและใช้ชีวิตมากขึ้น

ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม (Physical Distancing) ทำให้เราไม่สามารถคุยกับเพื่อน หรือคนรู้จักได้เหมือนเดิม การใช้งาน VDO Conference จะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นสำหรับการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้สังคมของเราจะก้าวสู่การเป็น Cashless Society อย่างแท้จริง เนื่องจากผู้บริโภคอาจเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการชำระเงิน โดยลดการใช้เงินสด และหันมาชำระผ่านโมบายล์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เพื่อลดการสัมผัสเชื้อที่อาจติดมากับธนบัตรหรือเหรียญ

3.เรียนออนไลน์ กันมากขึ้น

ในช่วงวิกฤติ COVID-19 สถานการศึกษาหลายแห่ง ยังมีการเรียนการสอน แต่เปลี่ยนรูปแบบมาเรียนผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น โดยใช้แอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Microsoft Teams, Zoom หรือ Slack อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ มีการคาดการณ์ว่าการเรียนออนไลน์อาจลดลงบ้าง แต่ก็อาจมีบางสถานศึกษา ที่ทั้งผู้เรียน และผู้สอนยังคงต้องการเรียนออนไลน์อยู่ ดังนั้น สถานศึกษาต่างๆ อาจพัฒนาหลักสูตร และรูปแบบให้สามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสนองความต้องการของผู้เรียนและผู้สอนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

4.เพิ่มความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ธุรกิจจำเป็นต้องวางแผนปรับตัวทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยเฉพาะด้านการบริหารความเสี่ยงที่อาจกระทบกับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ธุรกิจยังต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักปรับตัวให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ เช่น

  • สร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความคล่องตัว เพิ่มจำนวนผู้จัดหาวัตถุดิบเพื่อกระจายความเสี่ยง
  • ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
  • ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจและการให้บริการ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ๆ เช่น ธุรกิจร้านค้า และร้านอาหาร จากเดิมเคยให้บริการลูกค้าที่หน้าร้านเพียงอย่างเดียว อาจต้องปรับตัวหาลูกค้าจากช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น บริการส่งอาหาร Delivery เป็นต้น

Source: BrandInside และ ฐานเศรษฐกิจ

เรียบเรียงโดย ทีม Digital Transformation (dEX), GC

Feature Stories

Feature Stories
10 พฤษภาคม 2564
Strengthening the Community through the Wat Chak Louk Ya Recycling Waste Management Center
อ่านเพิ่มเติม
Feature Stories
17 มิถุนายน 2562
GC สนับสนุนซองใส่ iPad จากพลาสติกรีไซเคิล ที่ถักทอโดยชุมชนระยอง เป็นของที่ระลึกในการประชุมสุดยอดอาเซียน 2562
อ่านเพิ่มเติม
Feature Stories
18 ธันวาคม 2560
สัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองคริสต์มาสในปีนี้ ที่ เปลี่ยนไป !!!
อ่านเพิ่มเติม